“ดาวโจนส์” ปิดร่วง 486 จุด หวั่น “เฟด” คุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุก – ดัชนี PMI หดตัว
“ดาวโจนส์” ปิดร่วง 486.27 จุด หวั่น “เฟด” คุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุก เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกังวลเศรษฐกิจถดถอย หลัง เฟด คุมเข้มนโยบายการเงิน เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ดัชนี PMI หดตัวลงเป็นเดือนที่ 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (23 ก.ย.65) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ การเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐที่หดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 นั้น ถ่วงตลาดลงด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,590.41 จุด ร่วงลง 486.27 จุด หรือ -1.62%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,693.23 จุด ร่วงลง 64.76 จุด หรือ -1.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,867.93 จุด ร่วงลง 198.88 จุด หรือ -1.80%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 4%, ดัชนี S&P500 ร่วง 4.6% และดัชนี Nasdaq ร่วง 5.1%
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ นำโดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยซึ่งร่วงลง 6.75% และ 2.29% ตามลำดับ
ส่วนดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 หลังจากในระหว่างวันทรุดตัวลงกว่า 800 จุด และร่วงลงมากกว่า 20% จากระดับปิดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 36,799.65 เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ซึ่งทำให้ดาวโจนส์เข้าสู่ภาวะซบเซา
สำหรับบรรดานักลงทุนได้เทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากมีความวิตกมากขึ้นว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของเฟดจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เมื่อวันพุธ (21 ก.ย.) เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในปีนี้ ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดอยู่ในกรอบ 3-3.25% เพื่อพยายามที่จะควบคุมเงินเฟ้อ
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุย้ำว่า เฟดมุ่งเป้าในการบรรลุเป้าหมายด้านเสถียรภาพราคา ซึ่งเฟดคาดว่าจะต้องอาศัยการคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่าแนวโน้ม และการว่างงานสูงขึ้น
ขณะที่นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพ.ย. และปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.3 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 44.6 ในเดือนส.ค.