MGC ฟอร์มแกร่ง Q1 กำไรโต 32% รุกหนักธุรกิจมารีน-สินเชื่อ

MGC โชว์งบไตรมาส 1/66 กำไรโต 32% แตะ 81 ล้านบาท หลังรายได้เพิ่มขึ้น วางแผนไตรมาส 2/66 รุกหนักธุรกิจมารีน-บริการด้านการเงินครบวงจร เดินหน้าขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการหลังการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ 45 สาขา ภายใน 3 ปี


ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 5,379.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจบริการหลังการขายและซ่อมบำรุงยานยนต์อิสระที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 81.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี

กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยโมเดล Lifestyle Mobility Ecosystem ซึ่งมีความโดดเด่น และมีระบบนิเวศทางธุรกิจที่ครบวงจร สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งการสร้างการเติบโตจากการดำเนินงานร่วมกันภายในองค์กรและพันธมิตร (Synergy) ที่มีความเกี่ยวเนื่องและส่งเสริมกัน ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้น

ในทุกกลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1) ธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 19.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการเพิ่มขึ้นของยอดจำหน่ายรถยนต์ BMW เรือยอร์ช Azimut และบิ๊กไบค์ Harley-Davidson 2) ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ มีรายได้เพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จาการขยายศูนย์บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มธุรกิจนี้สามารถสร้างรายได้ประจำให้กลุ่มบริษัทฯ (Recurring Income) 3)ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ มีรายได้เพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ได้ขยายพอร์ตไปสู่นานน้ำใหม่ในกลุ่มธุรกิจมารีน (Marine Business Ecosystem) ซึ่งเป็นตลาด Blue Ocean เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่ม MGC-ASIA ผ่านการขยายฐานสินค้า และบริการให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยบริษัท เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาเตอร์ (เอเชีย) จำกัด ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดตัวเรือสัญชาติอเมริกันแบรนด์ Chris-Craft ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 149 ปี พร้อมสิทธิ์การจัดจำหน่ายและให้บริการแต่เพียงรายเดียวในไทยและภูมิภาคอาเซียน หลังจากประสบความสำเร็จจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายเรือยอร์ชสัญชาติอิตาเลียน Azimut รายเดียวในประเทศไทยมากว่า 8 ปี

ธุรกิจมารีนเป็นตลาดที่มีผู้เล่นน้อยราย (Blue ocean) และยังมีศักยภาพเติบโตสูง ด้วยความพร้อมในระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบของ MGC-ASIA ผสานกับประสบการณ์ในการดูแลลูกค้ามาอย่างยาวนาน พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ ริเวอร์เดล มารีน่า ปทุมธานี, โอเชียน มารีน่า พัทยา และบริการด้านการเงินจาก อัลฟา เอกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการด้านการเงิน และเป็นเจ้าของเรือได้ง่ายขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเรือเพื่อสันทนาการและการท่องเที่ยว โดยกลุ่มบริษัทฯ พร้อมสร้างการเติบโตอีกหนึ่งยูนิเวอร์ส เพื่อก้าวสู่ผู้นำตลาดในประเทศไทยและอาเซียน ภายใต้ MGC-ASIA Lifestyle Mobility Ecosystem” ดร.สัณหวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2/66 ปัจจัยมาจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีแนวโน้มเติบโต รวมทั้งการขยายระบบนิเวศทางธุรกิจไปสู่กลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ คาดว่าขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากดีมานด์ของรถยนต์ที่ยังแข็งแกร่ง และยังมียอดขายรถที่รอส่งมอบ (Backlog) อีกจำนวนมาก ประกอบกับปัญหาซัพพลายเชนคลี่คลาย ทำให้สามารถส่งมอบรถยนต์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีแผนขยายพอร์ตธุรกิจผ่านการขยายฐานสินค้าให้มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า และดำเนินการเพิ่มศักยภาพการเติบในทุกกลุ่มธุรกิจ

ขณะที่กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และพนักงานขับ คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย มาตรการการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้เกิดดีมานด์ในตลาดธุรกิจรถเช่า SIXT ทั้งจากลูกค้าชาวต่างชาติ และการบริโภคภายในประเทศ โดยพอร์ตรถเช่า SIXT มีความหลากหลายของรุ่นรถทั้งรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงรถยนต์หรูสำหรับเช่า ซึ่งสร้างความแตกต่าง และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม

นอกจากนั้นกลุ่มบริษัทฯ เตรียมขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญ ภายในไตรมาส 2/2566 โดยเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ BMW Millennium Auto, MINI Millennium Auto เฟสแรก และจะมีการขยายโชว์รูมสำหรับแบรนด์อื่นๆ ในเครือฯ เพื่อสร้าง Southern Cluster ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยปัจจุบัน MGC-ASIA มีโชว์รูมพร้อมศูนย์ให้บริการในพื้นที่ภาคใต้ 3 แห่ง ประกอบด้วย ภูเก็ต หาดใหญ่ และ สุราษฎร์ธานี

ส่วนการขยายบริการที่เกี่ยวเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำที่แข็งแกร่ง ไปสู่ธุรกิจให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับยานยนต์ในระดับลักชัวรี่  ผ่านบริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ปัจจุบันอยู่ในช่วงขยายเงินลงทุนเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อของ Alpha X ขณะที่กลุ่มธุรกิจบริการหลังการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ (MMS Bosch Car Service and Tyre) วางแผนขยายสาขาเป็น 45 สาขา ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันมีทั้งหมด 22 สาขา เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัทฯ

Back to top button