เมือง “ดิกซ์วิลล์ น็อตช์” นำร่องเปิดหีบผลสูสี “แฮร์ริส-ทรัมป์” คว้าคนละ 3 คะแนน
เมือง“ดิกซ์วิลล์ น็อตช์” นำร่องเปิดหีบการเลือกตั้งสหรัฐ ผลสูสี “แฮร์ริส-ทรัมป์” คว้าคนละ 3 คะแนน
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (5 พ.ย.67) สำนักข่าว “ซีเอ็นเอ็น” รายงานว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2024 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงชาวอเมริกันคนแรกได้หย่อนบัตรเลือกตั้งลงหีบในเมืองดิกซ์วิลล์ น็อตช์ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐนิวแฮมป์เชอร์ อยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่ตามแนวชายแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จึงเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ปลายสุดทางตอนเหนือของรัฐ ทำให้เปิดคูหาให้เลือกตั้งได้ตั้งแต่เที่ยงคืน หรือที่เรียกกันว่า ” Midnight vote”
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหมู่บ้านดิกซ์วิลล์ น็อตช์ ได้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในวันเลือกตั้งสหรัฐแล้วเมื่อช่วงเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมที่เริ่มปฏิบัติกันมาตั้งแต่ปี 1960 ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นี้จะสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันได้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน หลังจากกฎหมายเลือกตั้งของรัฐนิวแฮมป์เชียร์อนุญาตให้เขตเทศบาลเมืองต่างๆ ที่มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 100 คน สามารถเปิดคูหาเลือกตั้งให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งได้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนและปิดคูหาเลือกตั้งได้ในทันทีเมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดที่ลงทะเบียนไว้ได้มาลงคะแนนเสียงและหย่อนบัตรเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับบรรยากาศเลือกตั้งที่เมืองดิกซ์วิลล์ น็อตช์ หลังเปิดคูหาเลือกตั้ง มีการบรรเลงเพลงชาติสหรัฐด้วยหีบเพลง ท่ามกลางสื่อมวลชนชาวอเมริกันที่มาเกาะติดรายงาน ผลปรากฏว่านางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและผู้สมัครตัวแทนพรรคเดโมแครต ได้รับคะแนนไป 3 คะแนน เท่ากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและผู้สมัครตัวแทนพรรครีพับลิกัน ที่ได้รับ 3 คะแนนเช่นกัน หลังมีผู้มาลงคะแนนเสียงทั้งหมด 6 คน สะท้อนให้ถึงโพลล์สำรวจส่วนใหญ่ทั่วโลกที่ผู้สมัครทั้ง 2 คน ได้รับความนิยมสูสีกันมากที่สุดในการชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี จากสถิติที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้งในดิกซ์วิลล์ น็อตช์ มักจะเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มความน่าจะเป็นของการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสหรัฐในแต่ละครั้ง ซึ่งย้อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วนั้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในดิกซ์วิลล์ น็อตช์ ได้เทคะแนนเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ให้กับนายโจ ไบเดน เอาชนะนาย โดนัลด์ ทรัมป์ และยังทำให้ ไบเดน เป็นผู้สมัครคนที่ 2 เท่านั้นที่กวาดคะแนนเสียงทั้งหมดจากที่นี่ไปได้