“10 วันอันตราย” ปีใหม่ 68 ยอดเสียชีวิต 8 วัน 363 ราย “กรุงเทพฯ” ครองแชมป์

ศปถ. รายงานสถิติ 10 วันอันตราย ปีใหม่ 2568 ยอดสะสม 8 วัน เสียชีวิต 363 ราย บาดเจ็บ 2,090 คน “กรุงเทพฯ” ขึ้นนำแชมป์ยอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ม.ค.68) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน “10 วันอันตราย” ซึ่งรัฐบาลกำหนด ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.67 จนถึงวันที่ 5 ม.ค.68

สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 3 ม.ค.68 ซึ่งเป็นวันที่ 8 ของการรณรงค์  “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 205 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 199 คน ผู้เสียชีวิต 32 ราย

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ตัดหน้ากระชั้นชิด 32.2% ขับรถเร็ว 31.22% และทัศนวิสัยไม่ดี 17.56%

ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 90.04% รถกระบะ 3.79% รถยนต์ส่วนบุคคล 1.9%

ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 84.39% รองลงมาคือบนถนนกรมทางหลวง 50.24% และถนนใน อบต./หมู่บ้าน 26.83%

โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 10 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 11 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก 3 ราย

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 8 วันของการรณรงค์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.67- 3 ม.ค.68 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,149 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,090 คน ผู้เสียชีวิต รวม 363 ราย

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 78 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 88 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 21 ราย

นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า วันนี้ยังมีประชาชนเดินทางกลับเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ที่เป็นเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ทำให้รถบนเส้นทางสายหลักและสายรอง มีปริมาณหนาแน่นอีกครั้ง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ศปถ. จึงกำชับให้ทุกจังหวัดประสานหน่วยงานในพื้นที่ให้ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ได้กำชับให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะบริการรับ-ส่งประชาชน ตามสถานีขนส่งต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และให้ตรวจสอบสภาพความพรัอมของรถโดยสารสาธารณะ และพนักงานขับรถให้สามารถปฏิบัติงานบริการประชาชนได้อย่างปลอดภัย

Back to top button