กยศ. ฟ้องกลุ่มเบี้ยวหนี้ 3.1 หมื่นคน แนะผู้กู้ขอยืดเวลาผ่อนถึงอายุ 65 ปี

กยศ. แนะนำผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้ เร่งทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องคดีและบังคับคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายเวลาผ่อนยาวได้ถึงอายุ 65 ปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ก.พ.68) นางสาวนันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กยศ. ได้บอกเลิกสัญญาผู้กู้ยืม เนื่องจากไม่ชำระเงินคืนตามสัญญา และกำลังจะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดี ประมาณ 31,000 ราย จำนวนทุนทรัพย์กว่า 2,800 ล้านบาท

ทั้งนี้จึงขอแนะนำให้ผู้กู้ยืมมาทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับกยศ. เพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระอีก 15 ปี โดยชำระเงินงวดสุดท้ายได้ถึงอายุ 65 ปี และเมื่อผู้กู้ยืมชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้นกยศ. จะให้ส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ทั้งหมด 100%

โดยการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้กู้ยืมสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน และไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหรือบังคับคดี แต่หากผู้กู้ยืมยังเพิกเฉยกยศ. มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีต่อไป

นอกจากนี้กยศ. ยังตรวจพบว่า มีกลุ่มผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเป็นผู้มีความสามารถในการชำระหนี้ โดยเป็นผู้มีเงินฝากหรือมีรายได้สูงประมาณ 400,000 ราย ซึ่งหากผู้กู้ยืมกลุ่มนี้ไม่ติดต่อชำระหนี้ หรือทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กยศ. ก็จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

นางสาวนันทวัน กล่าวอีกว่า กยศ. มีความจำเป็นต้องฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีตามกฎหมายกับผู้กู้ยืมที่ไม่ชำระหนี้และไม่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐได้รับความเสียหาย เนื่องจากเงินกู้ยืมเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชนและเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้โอกาสทางการศึกษากับผู้ขาดแคลนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยผู้กู้ยืมทุกรายมีหน้าที่ต้องชำระเงินคืนเพื่อให้เงินทุกบาทตกทอดแก่นักเรียน นักศึกษารุ่นต่อไปที่ยังรอโอกาสอีกจำนวนมาก

Back to top button