เปิดรายละเอียดแก้ “พ.ร.บ.การพนัน” เพิ่มบทลงโทษหนัก! รองรับ “พนันออนไลน์” ถูกกฎหมาย

นอกเหนือจาก “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ที่รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร กำลังเดินหน้าขับเคลื่อนเพื่อหวังสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวมากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ “พนันออนไลน์” เป็นอีกหนึ่งวาระสำคัญที่กำลังเดินหน้าแก้ไขอย่างจริงจัง ทั้งในมิติของปัญหาด้านอาชญากรรม และในมิติของการพัฒนาประเทศ

หากย้อนกลับไปครั้งนึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เคยกล่าวไว้ในงานสัมมนาของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ปัญหาพนันออนไลน์ ถือเป็นวาระของชาติที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหา เฉกเช่นเดียวกับปัญหายาเสพติด เพราะหากนำเรื่องเหล่านี้มาทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากจะทำให้รัฐเข้าถึงข้อมูลของปัญหาเพื่อหาทางป้องกันแล้ว ยังมีเม็ดเงินที่นำมาพัฒนาประเทศ อย่างที่เคยนำหวยใต้ดินขึ้นมาบนดิน จนสามารถนำเงินกลับมาใช้พัฒนาประเทศได้เป็นกอบเป็นกำ

โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามข้อเสนอแนะของกระทรวงดิจิทัลฯ เรื่องการป้องกันการพนันออนไลน์ ให้แก้ไข “กฎหมายในลำดับรอง” ก่อนที่จะแก้ไขกฎหมายใหญ่ต่อไป โดย ครม. ให้กระทรวงดิจิทัลฯ ทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณากฎหมายลำดับรอง

โดยกฎหมายลำดับรองที่จะแก้ไขอาจเป็น “พระราชกฤษฎีกา” หรือ “กฎกระทรวง” โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสม เช่นกฎหมายการพนันบอล เป้าหมายเพื่อนำเงินที่ไม่ถูกต้องขึ้นมาบนดินทั้งหมด

จนล่าสุดฟาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอที่ประชุมครม. วันที่ 25 ก.พ. ที่จะถึงนี้ แก้ไขร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนัน (ฉบับที่ …) พ.ศ….

โดยมีสาระสำคัญคือ การเพิ่มโทษให้รุนแรงขึ้น เพราะหากเปิดให้การพนันถูกกฎหมายจะได้รู้ว่าใครเล่นการพนันและเสียค่าธรรมเนียมอย่างไร และยังสามารถควบคุมผู้ที่เข้ามาเล่นได้ไม่ให้หมดตัว แต่ที่ผ่านมาคนเล่นพนันผิดกฎหมายมีโทษต่ำ เสียค่าปรับ ปล่อยกลับบ้าน จากนั้นกลับมาเล่นใหม่ จึงต้องการให้คนเล่นการพนันผิดกฎหมายได้รับโทษมากขึ้น เพื่อเป็นตรรกะรองรับการพนันออนไลน์และการพนันประเภทต่าง ๆ ที่ถูกกฎหมาย

“โดยสรุปหากใครจะทำการพนันถูกกฎหมายต้องขออนุญาต หากใครลักลอบเปิดแบบผิดกฎหมายจะได้รับโทษหนัก ทั้งผู้เล่นและเจ้าของ ขณะนี้พนันออนไลน์ มี “บัญชี ข.” ถ้าแก้ไขกฎหมายการพนันผ่านและออกประกาศกฎกระทรวง เรื่องการพนันประเภท ข. เข้าไปถูกกฎหมาย เช่น ทายผลบอล ทายผลมวย” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ระบุ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วน “บัญชี ก.” ถ้าจะทำเป็นพนันออนไลน์ต้องไปแก้กฎหมาย ซึ่งไม่มีปัญหา หากรัฐบาลมีเสียงเต็มอยู่ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นต้องจัดระเบียบก่อน โดยมีโทษที่หนักขึ้น สำหรับผู้ที่ลักลอบเล่นการพนัน หากจะออกกฎกระทรวงประเภท ข. ต้องนำเข้าให้ ครม.เห็นชอบ

“เป็นนโยบายรัฐบาล นายกฯ ต้องเห็นชอบอยู่แล้ว กระทรวงมหาดไทยไม่ได้ทำเอง แต่เป็นนโยบายรัฐบาล ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร หากรัฐบาลจะทำเรื่องนี้ กระทรวงมหาดไทยมีเครื่องมือที่จะป้องกันการมอมเมาได้ดีกว่าปล่อยให้ไปเล่นแบบเถื่อน” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย กล่าว

สำหรับการแก้ไข พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 โดยสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ยกร่างพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ …) พ.ศ…. และรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนและผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. – 14 ก.พ.68 ซึ่งร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนันดังกล่าว ได้ปรับปรุงในหลายประเด็นสำคัญ เช่น

• การปรับนิยามการพนัน เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการพนันใหม่ ๆ รวมถึงการพนันออนไลน์
• อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ การเพิ่มเติมอำนาจในการตรวจสอบและเข้าถึงสถานประกอบการได้ตลอดเวลา
• บทลงโทษที่เพิ่มขึ้น สำหรับผู้เกี่ยวข้องกับการพนัน รวมถึงโทษใหม่ที่สูงขึ้นทั้งในกรณีของผู้จัดและผู้เล่น
• การเพิ่มบทสันนิษฐานความผิด ที่จะช่วยให้การดำเนินคดีเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกรณีของการพบเครื่องมือที่ใช้ในการพนัน
• การริบของกลาง เจ้าหน้าที่สามารถยึดหรืออายัดของกลางที่เกี่ยวข้องกับการพนันได้

สำหรับบทกำหนดโทษที่ปรับปรุงใหม่ มีรายละเอียดดังนี้

• ผู้จัดการการพนัน จำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 3 ปี, หากเกิดการพนันแบบ On-site จำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปี
• ผู้เล่นการพนัน จำคุกไม่เกิน 3 ปี, หากเป็นการพนันแบบ On-site จำคุกไม่เกิน 3 ปี
• ผู้เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ เช่น ผู้ชักชวน ผู้โฆษณา หรือผู้ที่ใช้กลวิธีในการจูงใจให้เข้าร่วมการพนัน จำคุกตั้งแต่ 7 ถึง 12 ปี
• ผู้ดูแลระบบการพนันออนไลน์ รวมถึงผู้ที่โฆษณาและหลอกลวงให้เล่นการพนัน จะถูกเพิ่มบทสันนิษฐานความผิด เพื่อให้การลงโทษเป็นไปอย่างรัดกุม