
หุ้นวัคซีน เด้งรับข่าว “HKU5” สธ.ไทย แจงยังไม่พบแพร่สู่คน
นักวิจัยจีนค้นพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5-CoV-2 ในค้างคาว ด้านตลาดหุ้นตอบรับทันที หุ้น Moderna พุ่ง 5.34% Pfizer ขยับ 1.54% และ Novavax เพิ่ม 0.88% ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขไทย ยืนยันการค้นพบนี้เป็นการศึกษาในห้องแล็บ ยังไม่พบหลักฐานการแพร่ระบาดสู่คน พร้อมย้ำระบบเฝ้าระวังของไทยยังแข็งแกร่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างถึงคณะนักวิจัยจีนพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ชื่อ HKU5-CoV-2 ในค้างคาว ซึ่งมีศักยภาพในการติดเชื้อสู่มนุษย์คล้ายกับโควิด-19
ข่าวนี้ส่งผลให้หุ้นของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนปรับตัวสูงขึ้นในการปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (21 ก.พ.68) ที่ผ่านมา โดย หุ้นของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) เพิ่มขึ้น 1.54% หุ้นของบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) เพิ่มขึ้น 5.34% และ หุ้นของบริษัทโนวาแวกซ์ (Novavax) เพิ่มขึ้น 0.88%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดวันนี้ (22 ก.พ.68) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเกี่ยวกับข่าวการค้นพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในค้างคาวจากทีมนักวิจัยชาวจีน ซึ่งมีความสามารถในการติดต่อไปยังมนุษย์ได้คล้ายกับไวรัสโควิด-19 ว่า ข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการวิจัยในห้องแล็บที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยเป็นการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) สายพันธุ์ HKU5-CoV-2 ที่ค้นพบนี้ เป็นความหลากหลายทางพันธุกรรมในไวรัสสกุล Merbecovirus ซึ่งไม่ถือว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือไวรัสกลายพันธุ์ แต่เป็นไวรัสในตระกูลโคโรน่าไวรัสที่มีหลายสายพันธุ์ย่อย
“โดยนักวิจัยค้นพบว่า มีลักษณะการจับคู่ระหว่าง HKU5-CoV-2 กับ ACE2 ของมนุษย์ที่แตกต่างจากมาร์เบโควีโรสอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดข้อสันนิษฐานในทางการวิจัยว่า อาจมีความเสี่ยงต่อการติดต่อจากสัตว์ไปสู่คนและอาจส่งผลให้เกิดการระบาด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการแพร่ระบาดหรือข้อมูลทางระบาดวิทยาที่เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์ HKU5-CoV-2 ในคนแต่อย่างไร ประชาชนจึงไม่ต้องวิตกกังวลในขณะนี้” ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทย ได้มีระบบเฝ้าระวังและควบคุมป้องกันโรคระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง รวมถึงความร่วมมือของกรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเครือข่ายทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์ไวรัสก่อโรคอย่างต่อเนื่อง และมีความรวดเร็วในการตอบสนองต่อสถานการณ์ ขณะนี้ผู้ป่วยโรคโควิด 19 ในประเทศไทยยังคงเป็นสายพันธุ์โอมิครอน JN.1*
“แม้จะยังไม่พบการระบาดของสายพันธุ์ HKU5-CoV-2 แต่มาตรการป้องกันจะไม่แตกต่างจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ที่ก่อโรคระบบทางเดินหายใจ ทั้งไข้หวัดใหญ่ โควิด 19 หรือ RSV คือ หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด หากจำเป็นต้องไปให้สวมหน้ากากอนามัย หรือสวมเมื่อป่วยมีอาการระบบทางเดินหายใจเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ล้างมือเป็นประจำ โดยบุคคลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีอาการรุนแรงสามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคได้ ทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีนโควิด–19” ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวทิ้งท้ายว่า การค้นหาเชื้อไวรัสใหม่ในค้างคาว เช่น ที่จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา กำลังดำเนินการ เป็นการวิจัยเพื่อเตรียมความพร้อม เนื่องจากไวรัสโคโรนามีหลายสายพันธุ์และมีการกลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ เมื่อค้นพบไวรัสแล้วจะมีการศึกษาคุณสมบัติต่าง ๆ เพื่อต่อยอดไปถึงการพัฒนาวัคซีน ซึ่งความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสจากค้างคาวมาสู่คนโดยตรงยังอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง เนื่องจากโดยปกติเชื้อที่พบในค้างคาวมีปริมาณน้อย โอกาสที่คนจะไปสัมผัสกับค้างคาวก็ต่ำมาก และการติดต่อสู่คนมักต้องมีสัตว์ตัวกลางอื่น