
“ชัชชาติ” ระดมวิศวกรอาสา 130 คน ตรวจอาคารสูง 700 แห่งวันนี้
ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำ! ห้ามหยุดค้นหาผู้รอดชีวิตตึกถล่ม พบสัญญาณชีพ 15 ราย พร้อมระดมวิศวกรอาสาจำนวน 130 คน ตรวจอาคาร 700 แห่งเร่งด่วน ด้านจราจรเริ่มคลี่คลาย เร่งประสาน กทพ. เปิดทางด่วนก่อนวันจันทร์
วันนี้ (29 มี.ค.68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงมาตรการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ภายหลัง กทม. ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา โดย ภารกิจเร่งด่วนลำดับแรก คือการกู้ภัยจากเหตุอาคารถล่มในเขตจตุจักร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการยกเลิกหรือชะลอแผนปฏิบัติการ โดยได้นำเครื่องมือหนักเข้าไปเพื่อเคลื่อนย้ายซากอาคารและเข้าถึงผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายใน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตรวจพบสัญญาณชีพของผู้รอดชีวิต 15 ราย โดยย้ำว่าปฏิบัติการจะต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ได้มากที่สุด
ภารกิจสำคัญลำดับที่ 2 คือการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทั่วกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน โดยในวันนี้ จะมีวิศวกรอาสากว่า 130 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารที่ได้รับรายงานว่ามีความเสียหาย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน
- อาคารภาครัฐและหน่วยงานราชการ จะอยู่ภายใต้การดูแลของกรมโยธาธิการและผังเมือง ตามนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
- อาคารเอกชน โดย กทม. และทีมวิศวกรอาสา จะเป็นผู้เข้าตรวจสอบ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีประชาชนแจ้งผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue เกี่ยวกับรอยแตกร้าวประมาณ 2,000 รายการ ซึ่งจากการคัดกรอง พบว่ามีอาคารประมาณ 700 แห่งที่จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียดในวันนี้ ทั้งนี้เขตที่ได้รับแจ้งปัญหามากที่สุดอยู่ในพื้นที่ชั้นในใจ ซึ่งมีอาคารสูงจำนวนมาก ขณะที่เขตรอบนอกแทบไม่มีเลย
สำหรับประชาชนที่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาคารสูงในการกลับเข้าทำงานในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยืนยันว่า กทม. จะเร่งดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างอาคารอย่างเข้มข้นภายในช่วง 2 วันนี้ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัยก่อนเปิดใช้งานอีกครั้ง โดยตนจะมีคำสั่งให้อาคารสูงขนาดใหญ่ดำเนินการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับอนุญาตอีกครั้ง เชื่อว่าทุกคนต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
แม้แผ่นดินไหวครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่พบว่าอาคารที่ได้รับความเสียหายรุนแรงมีเพียงอาคารเดียว ซึ่งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอาคารอื่น ๆ ไม่ได้เกิดการพังทลายแต่อย่างใด ทั้งนี้ กฎหมายควบคุมอาคารของไทยได้กำหนดให้มีมาตรฐานรองรับแผ่นดินไหวอยู่แล้ว จึงขอให้ประชาชนตั้งสติและไม่ตื่นตระหนก
ด้านการจราจรขณะนี้ยังพบปัญหาจราจรติดขัดในย่านดินแดงทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยทาง กทม. กำลังเร่งประสานงานเพื่อเร่งเปิดการจราจรให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ส่วนระบบขนส่งสาธารณะ ขณะนี้รถไฟฟ้าทั้ง MRT และ BTS เปิดให้บริการตามปกติแล้ว ซึ่งคาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาการเดินทางของประชาชนได้
สำหรับการเปิดสวนสาธารณะตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับประชาชนที่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหว พบว่า มีผู้ใช้บริการประมาณ 700 คน ได้ร่วมกับภาคเอกชน จัดหาอาหารและน้ำดื่มแจกจ่าย และในช่วงสุดสัปดาห์นี้ กทม. จะจัดกิจกรรมดนตรีในสวนเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ย้ำว่า สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนอาฟเตอร์ช็อกลดลงและมีความรุนแรงน้อยลง ขณะเดียวกัน ภาพรวมของการจราจรในช่วงเช้าวันนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม กทม. จะเร่งประสานงานเพื่อให้สามารถเปิดใช้เส้นทางด่วนได้ก่อนวันจันทร์นี้