ปภ.เร่งค้นหา 80 ชีวิตใต้ซาก “ตึก สตง.” ถล่ม-เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.9 รับรู้ 2 จังหวัด

ปภ.เผย อาฟเตอร์ช็อก ขนาด 5.9 วันนี้ หลังแผ่นดินไหวใหญ่ในเมียนมา แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ รับรู้แรงสั่นไหว แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย กรมบัญชีกลางอนุมัติงบเยียวยาผู้ประสบภัยแล้ว 200 ล้านบาท ขณะที่ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ อัปเดตเหตุอาคาร สตง. ถล่ม เสียชีวิตเพิ่มเป็น 9 ราย ยันไม่หยุดค้นหาผู้สูญหาย


วันนี้ (29 มี.ค.68) เวลา 19:00 น. ในรายการพิเศษ สรุปสถานการณ์ประจำวันเหตุแผ่นดินไหว นายภาสกร บุญญลักษณ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (อธิบดี ปภ.)  เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมา ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย แต่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด คือกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยเฉพาะอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเกิดการพังถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีก 80 ราย

จนถึงขณะนี้ มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นแล้วกว่า 140 ครั้ง ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าแรงสั่นสะเทือนจะไม่รุนแรงกว่าเดิม ล่าสุด เมื่อเวลา 16:30 น. มีอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.9 แมกนิจูด ศูนย์กลางอยู่ที่เมียนมา ห่างจากแม่ฮ่องสอน 176 กิโลเมตร แม้แม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่จะรับรู้แรงสั่นไหว แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายเพิ่มเติม

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ ตนได้ทำหนังสือขอขยายวงเงินทดลองราชการสาธารณภัย ล่าสุดวันนี้กรมบัญชีกลาง อนุมัติงบ 200 ล้านบาทแล้ว เพื่อนำไปเยียวยาประชาชน โดยเฉพาะในกทม.

อธิบดี ปภ. กล่าวทิ้งท้ายว่า หากอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นไม่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น คาดว่าสามารถปรับลดระดับ การประกาศภัยพิบัติ จากระดับ 3 ซึ่งเป็นภัยขนาดใหญ่ ลงสู่ระดับภัยขนาดกลางได้ ภายใน 1-2 วันนี้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การกู้ภัยที่อาคาร สตง. ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงทำงานแข่งกับเวลา โดยต้องใช้เครื่องมือหนักเพื่อเคลื่อนย้ายโครงสร้างอาคารที่ถล่ม ขณะที่นายกฯ กำชับให้เฝ้าระวังฝนตกใน 1-2 วัน อาจกระทบภารกิจกู้ภัย

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวอีกว่า กทม. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทีมวิศวกรอาสากว่า 100 คน เข้าตรวจสอบอาคารอื่น ๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยเปิดให้ประชาชนแจ้งเหตุผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue ซึ่งเมื่อเช้าวันนี้ มีการแจ้งเข้ามาแล้วกว่า 2,105 จุด ขณะนี้ได้คัดกรองและส่งทีมตรวจสอบไปแล้ว 723 จุด โดยพบว่า มี 2 อาคารที่ต้องห้ามใช้งานทันที

นอกจากนี้ อาศัยอำนาจผู้บัญชาการเขตป้องกันสาธารณภัย ได้ออกคำสั่งให้ผู้ตรวจสอบอาคาร 9 ประเภท เช่น อาคารสูง คอนโดมิเนียม และโรงมหรสพ ต้องทำการตรวจสอบอาคารอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ย้ำผู้ที่ไม่มั่นใจในความแข็งแรงของอาคาร สามารถแจ้งได้ที่ โทร.1555 หรือผ่านแอป Traffy Fondue

ด้านการจราจร วันเกิดเหตุต้องปิดทางด่วนดินแดง เนื่องจากเครนก่อสร้างคอนโดที่อยู่ติดทางด่วนหักโค่นลงมาจากแรงสั่นสะเทือน ล่าสุด กรมโยธาธิการ, กทม. และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบและวางแนวทางรื้อถอนเครน โดยขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการตัดและดึงเครนออกแล้ว คาดว่าจะมีความคืบหน้าในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.68) และขอให้ประชาชนติดตามว่าจะสามารถเปิดทางด่วนได้ทันวันจันทร์นี้หรือไม่

สำหรับระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า BTS และ MRT เปิดให้บริการตามปกติ ยกเว้นสายสีเหลืองและสายสีชมพู ซึ่งยังต้องรอติดตามประกาศความคืบหน้าในวันพรุ่งนี้

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้น แม้แผ่นดินไหวครั้งนี้จะรุนแรงที่สุดในรอบสิบปี แต่ความเสียหายอยู่ในวงจำกัด โดยมีเพียงอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 1 แห่งที่พังถลาย ขณะที่อาคารอื่น ๆ ยังคงมีโครงสร้างที่มั่นคง

ทั้งนี้ มาตรฐานการก่อสร้างในกรุงเทพฯ ได้รับการออกแบบให้รองรับแรงสั่นสะเทือนได้สูงกว่าระดับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไปไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เมืองยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามปกติ

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวยังคงสามารถใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ได้อย่างปกติ และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่อย่าประมาท หากพบสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ขณะเดียวกัน อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นในระยะหลังไม่สามารถรับรู้ได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ

Back to top button