ตัวตนที่แท้จริงเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง
การที่ประเทศตะวันตกเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ AIIB เท่ากับเป็นการตอกหน้าสหรัฐฯอย่างรุนแรง อีกทั้งยังเปรียบเสมือนว่า มหามิตรของมะกันกำลังให้ความร่วมมือกับฝากคู่แข่งในการลดทอนอิทธิพลและความสำคัญของหน่วยงานที่มีสหรัฐฯอยู่เบื้องหลัง
–ตามกระแสโลก–
จากสัปดาห์ก่อน เราได้พูดคุยกันถึงเรื่องสายการบินสัญชาติอเมริกันออกมาวอนขอให้รัฐบาลตัวเองช่วยเตะสกัดคู่แข่งจากชาติตะวันออกกลางด้วยการจำกัดเที่ยวบินที่จะเข้ามายังสหรัฐฯ เพราะตัวเองไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำการแข่งขันกับคู่แข่งพร้อมกับไม่มีความสามารถมากพอที่จะปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของตัวเองได้ เลยเป็นเหตุให้ต้องหาทางออกด้วยวิธีการนอกเหนือไปจากกลไกทางธุรกิจ หรือพูดง่ายๆคือ ใช้วิธีการสกปรกนั่นเอง
ส่วนประเด็นที่นำมาเล่าสู่กันฟังในสัปดาห์นี้ ก็นับเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เข้ามาตอกย้ำความคิดว่า แท้จริงแล้วสหรัฐฯคือพวกขี้แพ้ขนานแท้ หรือภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า พวก Loser โดยเฉพาะในครั้งนี้ เมื่อผู้ที่ออกมาแสดงถึงความอ่อนแอไม่มีปัญญาสู้เลยนั้น คือตัวรัฐบาลอเมริกันเอง ที่ออกอาการแต๋วแตก หลังจากเห็นพันธมิตรชาติยุโรป รวมไปถึงอังกฤษผู้เป็นมหามิตรของตัวเอง เกี่ยวก้อยกันลงนามตอบรับการเป็นผู้ก่อตั้ง AIIB ร่วมกับจีนและชาติอื่นๆ
Asian Infrastructure Investment Bank หรือ AIIB ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย มีจีนทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ที่คอยเชิญชวนชาติอื่นๆเข้ามาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง โดยปัจจุบันมีสมาชิกแล้วทั้งหมด 36 ประเทศ ซึ่งสิ่งที่กำลังทำให้สหรัฐฯรู้สึกจุกยอดอกอยู่ตอนนี้คือ ทั้งอังกฤษ ออสเตรเลีย เยอรมัน และกระทั่งสวิสเซอร์แลนด์ต่างปวารณาตัวเป็นสมาชิกผู้ทรงเกียรติของธนาคารแห่งนี้
ทีนี้ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า การที่ประเทศตะวันตกเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ AIIB เท่ากับเป็นการตอกหน้าสหรัฐฯอย่างรุนแรง อีกทั้งยังเปรียบเสมือนว่า มหามิตรของมะกันกำลังให้ความร่วมมือกับฝากคู่แข่งในการลดทอนอิทธิพลและความสำคัญของหน่วยงานที่มีสหรัฐฯอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมีทั้ง ธนาคารโลก หรือ World Bank กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF และที่สำคัญที่สุดคือ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ ADB
ส่วนที่บอกว่า สหรัฐฯเป็นพวกขี้แพ้ก็อยู่ตรงที่เวลาพวกเขารู้สึกว่า ตนเองกำลังเพลี่ยงพล้ำให้กับใครหรืออะไรซักอย่าง แทนที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อมาต่อสู้ต่อกรในประเด็นที่เกี่ยวข้อง สหรัฐฯมักจะแก้ลำด้วยวิธีการอื่น ไม่ว่าจะข่มขู่ คุกคาม กดดัน แว้งกัด หรือแม้กระทั่งทำเป็นเสแสร้งอ้อนวอนเพื่อขอความเห็นใจ ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นเรื่องน่าขันมาก เพราะที่ผ่านมา สหรัฐฯแสดงให้โลกเห็นถึงความทระนงของตัวเอง และชอบทำตัวยกตนข่มท่านมาโดยตลอด
ครั้งนี้ สหรัฐฯพยายามกล่าวอ้างต่างๆ นานา เพื่อต้องการบ่งบอกชาวโลกว่า จีนไม่มีความชอบธรรมในการจัดตั้ง และบริหารธนาคาร AIIB โดยกล่าวหาว่าจีนกำลังทำลาย World Bank บ้าง หรือมีปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนบ้าง ต้องการครอบงำภูมิภาคเอเชียบ้าง หรือแม้กระทั่งดูหมิ่นว่าจีนไม่มีความสามารถมากพอที่จะรักษามาตรฐานในการบริหารจัดการธนาคารประเภทนี้ได้หรอก
เห็นแล้วหรือยังละว่า กรณีนี้ก็เหมือนกับตอนที่ เดลต้าแอร์ไลน์ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ และอเมริกันแอร์ไลน์ของร้องให้หน่วยกำกับการบินสหรัฐฯ ช่วยแบนสายการบินของพวกอาหรับ เพราะไม่มีปัญญาจะไปแข่งขันได้ ตอนนี้รัฐบาลอเมริกันก็กำลังใช้วิธีสกปรก ด้วยการดิสเครดิตของจีน โดยอ้างเห็นผลแบบข้างๆ คูๆ เหมือนกับเด็กขี้แย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้คงเป็นเพราะว่า สหรัฐฯรู้สึกว่าตัวเองกำลังมีอำนาจในการต่อรองน้อยลง อีกทั้งกำลังถูกโดดเดียวมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้อังกฤษและออสเตรเลียก็มาแล้ว เยอรมันก็มาแล้ว และนี่หากว่าเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเข้าร่วมด้วย สหรัฐฯจะไม่ยิ่งอกแตกตายไปกว่านี้หรือ ซึ่งถ้าวันนั้นมาถึงจริง สหรัฐฯคงจะอ้างละมั้งว่าจีนมีปัญหามลพิษสูง จึงไม่สมควรจะเป็นหัวเรือใหญ่ของ AIIB
นี่แหละคือ ตัวตนที่แท้จริงของสหรัฐอเมริกา