ลืมตายอมรับความจริง!!ตอนสอง: คาสิโน

สัปดาห์ก่อนที่เขียนเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ “ตอนที่หนึ่ง” ยังคงอยู่ในช่วงที่นักกีฬาจากทุกๆชาติกำลังขับเคี่ยว เพื่อแย่งชิงเหรียญรางวัลกันอย่างเข้มข้น ซึ่งในสัปดาห์นี้ มหกรรมกีฬาซีเกมส์ได้ปิดฉากลงไปแล้ว อย่างน่าภาคภูมิใจ และต้องขอยกนิ้วให้กับทัพนักกีฬาของไทย เพราะทุกคนได้ช่วยกันทุ่มทั้งกายและใจ ช่วยให้ไทยคว้าตำแหน่งเจ้าแห่งซีเกมส์ สมัยที่ 13 ได้สำเร็จ


–ตามกระแสโลก–

 

สัปดาห์ก่อนที่เขียนเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ “ตอนที่หนึ่ง” ยังคงอยู่ในช่วงที่นักกีฬาจากทุกๆชาติกำลังขับเคี่ยว เพื่อแย่งชิงเหรียญรางวัลกันอย่างเข้มข้น ซึ่งในสัปดาห์นี้ มหกรรมกีฬาซีเกมส์ได้ปิดฉากลงไปแล้ว อย่างน่าภาคภูมิใจ และต้องขอยกนิ้วให้กับทัพนักกีฬาของไทย เพราะทุกคนได้ช่วยกันทุ่มทั้งกายและใจ ช่วยให้ไทยคว้าตำแหน่งเจ้าแห่งซีเกมส์ สมัยที่ 13 ได้สำเร็จ

สำหรับในสัปดาห์นี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เมื่อไปถึงสิงคโปร์แล้วจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ ซึ่งนั่นก็คือ “มารินา เบย์ แซนส์” นั่นเอง

สถานที่แห่งนี้เป็นทั้งโรงแรม บ่อนคาซิโน ศูนย์การค้าขนาดยักษ์ ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า หรือพูดง่ายๆเลยคือ ที่แห่งนี้ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ทันสมัย และสามารถดึงดูดรายได้ให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเม็ดเงินจากชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาท่องเที่ยว มาทำธุรกิจ หรือมาเพื่อการเสี่ยงโชค

อภิมหาโครงการแห่งนี้ มีมูลค่าการลงทุนสูงราว 1.50 แสนล้านบาท โดยส่วนของโรงแรมนั้นถูกกระจายอยู่ตามอาคารทั้ง 3 แท่ง ที่มีทรงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ประเภทฉีกแนวคิด เป็นรูปเรือปิดบนหัวอาคารทั้งหมด ขณะที่ส่วนของบ่อนคาสิโน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านั้นรวมตัวกันอยู่ในส่วนที่เป็นอาคารขนาดมหึมา ตั้งอยู่ด้านริมอ่าวมารินา

 

s20150620

 

ถ้ามองในแง่ของมูลค่าการลงทุน หลายท่านอาจคิดว่า 1.50 แสนล้านบาทนั้นฟังดูแพงเหลือเกิน และไม่น่าจะเป็นการลงทุนที่ดูจะคุ้มค่าซักเท่าใดนัก แต่ทว่าในข้อเท็จจริงนั้นคือ โครงการ มารินา เบย์ แซนส์ สามารถคืนทุนได้ภายใน 4 ปี หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2553      

ทีนี้ ก็ต้องย้อนกลับมามองยังบ้านเราบ้าง ซึ่ง ณ ขณะนี้ กระแสเรื่องบ่อนคาสิโนได้หวนกลับมาเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ “กลุ่มรักชาติ” หรือ 12 สปช. และ พลตำรวจเอก ดร. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผลัดกันออกมาสนับสนุนแนวคิดเรื่องการจัดตั้งบ่อนถูกกฎหมายในประเทศไทย

ซึ่งการออกมาในครั้งนี้ของท่าน ผบ.ตร. ถือว่า สามารถเรียกเสียง หรือกระแสต่อต้านได้แบบทันทีทันใด โดยเฉพาะจาก กลุ่ม NGO ทั้งหลาย รวมไปถึงกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่ถูกขนานนามว่า “พวกคนดี” โดยส่วนใหญ่คัดค้านว่า การมีบ่อนถูกกฏหมายในประเทศไทย เท่ากับเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับการเล่นพนัน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งกลุ่ม สปช. และ ตัว ผบ.ตร. เป็นตัวแทนของใครบางคน ที่ต้องการให้มีคาสิโนในบ้านเราหรือเปล่า

พวกข้อโต้แย้ง หรือ ข้อสังเกต เหล่านี้ จะจริงหรือจะเท็จอย่างไร ก็บอกไม่ได้ เพราะไม่รู้! แต่แน่นอนว่า การจัดตั้งบ่อนถูกกฏหมายนั้น จะให้ทั้งผลดีและผลเสียแก่สังคมไทย เฉกเช่นเดียวกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ที่ไม่มีอะไรจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง

ดังนั้น สิ่งสำคัญมันจึงอยู่ตรงที่ เราพร้อมหรือไม่ ที่จะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ เพื่อศึกษาหาสัดส่วนของข้อดีและข้อเสีย ว่าอย่างไหนมันมีน้ำหนักมากกว่ากัน มิเช่นนั้น หากเราเลือกที่จะปฏิเสธมันก่อนเลย อาจจะเท่ากับเป็นการตัดโอกาสตัวเอง และตัดโอกาสประเทศชาติ อย่างร้ายกาจเลยทีเดียว

 

จริงอยู่ที่ประเทศไทยเราเป็นเมืองพุทธ การพนันหรืออบายมุขทั้งหลายแหล่จึงถือเป็นสิ่งมิชอบ ที่ขัดต่อหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว มีใครกล้าพูดโดยไม่ต้องเสแสร้งไหมละว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบการพนัน! จริงๆนะ ลองมองออกไปข้างนอกดูซิ มองไปรอบๆตัว มองดูญาติโกโหติกา เพื่อนๆสมัยเรียน เพื่อนๆที่ทำงาน ข้าราชการ พ่อค้าแม่ขาย หรือชาวบ้านที่อยู่ตามท้องไร่ท้องนา แล้วจะเห็นว่า การพนันมันแทรกซึมอยู่ทุกอณูของสังคมไทยนั่นแหละ      

อย่างน้อยที่สุดเลย ก็ทุกๆวันที่ 1 และ วันที่ 16 ของทุกเดือน…ลองถามตัวเราเองดูซิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

พร่ำสอนกันมาตั้งแต่เด็กยันแก่ว่า ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ แต่ก็ยังเข้าวัด ไปบนบานศาลกล่าว ขอเลขเด็ดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันอยู่ทุกงวด ซ้ำร้าย พระสงฆ์บางรูปยังทำตัวเป็นเกจิอาจารย์ดังเองซะอีก พวกประเภทหลับตาปุ๊บ เห็น 2 ตัวล่างปั๊บ อะไรประมาณนี้    

บางทีแล้ว ไอ้เรื่องพวกนี้มันทำให้ประเทศชาติเสียโอกาสอะไรดีๆไปเยอะเหมือนกันนะ ช่วยกันหน่อยเถอะ ช่วยกันลืมตายอมรับความจริง เพื่อจะได้ศึกษาให้ได้อย่างถ่องแท้ก่อนว่า มันดีหรือไม่ดีจริงขนาดไหน แล้วถ้าสุดท้ายแล้ว มันมีแนวโน้มที่จะสร้างผลเสียกับสังคมมากกว่า เราค่อยมาช่วยกันหาหนทางอื่น ที่จะสามารถพัฒนาประเทศได้อย่างจริงๆจังๆ และยั่งยืนกว่า

แต่ขอบอกไว้ตรงนี้ก่อนนะว่า เม็ดเงินที่ไหลออกไปยังคาสิโนในต่างประเทศ ทั้งกัมพูชา พม่า ลาว มาเก๊า ลาสเวกัส เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เกนติ้ง ปีๆหนึ่ง หลายแสนล้านนะ!

Back to top button