จ่าหรือหมู่? เดี๋ยวรู้กัน

สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็น “สัปดาห์แห่งการเฝ้ารอ” ซะจริงๆ เพราะทุกตลาดบนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดทุน ตลาดค้าเงิน ตลาดน้ำมัน หรือแม้กระทั่ง ตลาดทองคำ ต่างชะลอดูท่าทีว่า ผลประชามติของกรีซ ที่จะมีการลงคะแนนกันในวันอาทิตย์ ที่ 5 กรกฎาคม จะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งข่าวร้ายและข่าวดี ที่จะมีผลต่อทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดเหล่านี้


–ตามกระแสโลก–

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็น “สัปดาห์แห่งการเฝ้ารอ” ซะจริงๆ เพราะทุกตลาดบนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดทุน ตลาดค้าเงิน ตลาดน้ำมัน หรือแม้กระทั่ง ตลาดทองคำ ต่างชะลอดูท่าทีว่า ผลประชามติของกรีซ ที่จะมีการลงคะแนนกันในวันอาทิตย์ ที่ 5 กรกฎาคม จะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งข่าวร้ายและข่าวดี ที่จะมีผลต่อทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดเหล่านี้  

แต่ที่แน่ๆ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มหากาพย์เรื่องกรีซเวอร์ชั่นนี้ ได้สร้างความฮือฮาในแวดวงอย่างสาสมมาโดยตลอด โดยที่ส่วนใหญ่มักจะรับบทเป็นวิญญาณร้าย คอยตามหลอกหลอนคนนู้นทีคนนี้ที ไม่เว้นแต่ละวัน

ล่าสุด ยูโรกรุ๊ป ก็พูดชัดเจนแล้ว ว่าอย่างไรก็ต้องรอดูผลลัพธ์ของการลงคะแนนก่อน เพราะต้องดูว่าชาวกรีกจะยินยอมพร้อมใจรับเงื่อนไขในการขอเงินช่วยเหลือจากบรรดาเจ้าหนี้หรือเปล่า แล้วจากนั้นจึงค่อยตัดสินใจ ว่าจะมีการพิจารณาเงินกู้ก้อนใหม่ให้กับกรีซหรือไม่

ส่วนเงื่อนไขที่ทางเจ้าหนี้ทั้งหลายหยิบยื่นให้กับชาวกรีก เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนสำหรับการรับความช่วยเหลือในครั้งนี้ มีอยู่หลากหลายประการด้วยกัน แต่ที่น่าสนใจเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชน ซึ่งมีอยู่ 2 ข้อคือ หนึ่ง การปรับโครงสร้างทางภาษีและ สอง การชะลออายุในการเกษียณราชการ

 

สำหรับการปรับโครงสร้างทางภาษี หลักๆแล้วพวกเจ้าหนี้ต้องการเน้นไปที่ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ซึ่งแต่เดิม กรีซมีอยู่ทั้งหมด 3 อัตราด้วยกัน คือ VAT ที่ใช้ในพื้นที่ส่วนที่เป็นเกาะ ส่วนที่เป็นแผ่นดินใหญ่ และส่วนที่เป็นเมืองใหญ่ โดยในเงื่อนไขนั้น จะมี VAT เหลือเพียงแค่ 2 อัตราคือ สำหรับใช้บนเกาะ และบนแผ่นดินใหญ่ ที่ระดับ 16% และ 23% ตามลำดับ

ส่วนเรื่องยืดอายุเกษียนฯ ทางเจ้าหนี้ต้องการให้ขยายอายุราชการออกไปอีก 7 ปี หรือ จากเดิม 60 ปี ก็กลายเป็น 67 ปี ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในมาตรการที่จะส่งผลกระทบต่อหมู่ข้าราชการของกรีซ นอกเหนือไปจากการปรับลดเงินเดือน และค่าสวัสดิการต่างๆอย่างแน่นอน ดังนั้นเงื่อนไขนี้จึงอาจเป็นจุดยากอีกจุดหนึ่ง สำหรับผลประชามติที่จะออกมาเป็นบวกได้

ทั้งหมดนี้ ก็ชัดเจนว่า ทางเจ้าหนี้ต้องการให้รัฐบาลกรีกมีวิธีการจัดเก็บรายได้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งการปรับเพิ่ม VAT จะเป็นการช่วยชาวกรีกให้ระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพราะแต่เดิม ชาวกรีกถือเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่นับว่ามีการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมากถึงมากที่สุด

ขณะที่ การยืดอายุราชการออกไปนั้น ก็เป็นอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากการที่เจ้าหนี้ทั้งหลายต้องการให้รัฐบาลกรีกมีค่าใช้จ่ายที่น้อยลง โดยการลดระยะเวลาที่รัฐต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูข้าราชการทั้งหลายหลังวัยเกษียน ซึ่งพวกเจ้าหนี้มองว่า เงินบำนาญที่ภาครัฐต้องรับผิดชอบในแต่ละปี มีมูลค่ามหาศาลเหลือเกิน

 

อย่างไรก็ดี คนไทยเราก็ควรจับตาดูในเรื่องนี้เช่นกัน เพียงแต่ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรกับมันมากนัก แค่ดูไว้ห่างๆให้พอกำหนดทิศทางการลงทุนได้เท่านั้นพอ โดยถ้าผลโหวตออกมาเป็น “เยส” ตลาดยุโรปจะซึมซับผลบวกนั้นทันที ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดบ้านเรากระเตื้องขึ้นมา แต่แค่ในช่วงสั้นๆเท่านั้นนะ เพราะถึงแม้ชาวกรีกจะรับเงื่อนไข แต่ก็ต้องลุ้นอยู่ดีว่า เดือนหน้ารัฐบาลกรีซจะมีเงินส่งเจ้าหนี้หรือเปล่า

ในทางกลับกัน ถ้าผลโหวตออกมาเป็น “โน” จะเกิดความผันผวนครั้งใหญ่ขึ้นทั่วภูมิภาคยุโรป รวมไปถึงสหรัฐอเมริกา และก็แน่นอนว่า รวมถึงบ้านเราด้วย โดยตลาดหุ้นและตลาดค่าเงิน หรือตลาดสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงอื่นๆจะได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ตลาดทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ถูกเรียกว่า Safe Haven จะได้รับอานิสงส์ หากชาวกรีกลงมติไม่ยอมรับเงื่อนไข     

ภายในวันอังคารหน้า บ้านเราน่าจะได้รู้ผลกันซักที    

Back to top button