โบรกฯฟันธง 2 ทางเลือกกรีซเจ้าหนี้รับ-ไม่รับหุ้นสะเทือนแน่!

โบรกฯฟันธง 2 ทางเลือกกรีซ หากผลการหารือของรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันที่ 12 ก.ค. ไม่ยอมรับกับข้อเสนอของกรีซเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกน่าจะมีการปรับลดลงต่อ ประมาณ 4-5% นำโดยตลาดหุ้นยุโรป แต่หากรมว. ยูโรโซนยอมรับข้อเสนอของกรีซและให้เงินช่วยเหลือก็จะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกคลายความกังวลแล้วกลับมาพุ่งขึ้นอย่างน้อย 4-5% ในสัปดาห์หน้าได้


บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์(10 ก.ค.) ว่า ทิศทางตลาดสัปดาห์หน้าขึ้นกับการเจรจาหนี้ของกรีซในวันอาทิตย์นี้ 

ดัชนีหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตกอยู่ในบรรยากาศกดดันจากปัจจัยภายนอกทั้งปัญหาหนี้ของกรีซและการปรับลดลงแรงของตลาดหุ้นจีน ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงกว่า 48 จุดหรือ -3.2% จากระดับ 1520 จุด มาปิดที่ระดับ 1472 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ลดลงเฉลี่ยต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาทต่อวัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์ของกรีซจะเริ่มเห็นความชัดเจนไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือลบภายในสัปดาห์หน้า

ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่ปรับลดลงมาแรงกว่า 30% ในช่วง 2 สัปดาห์ น่าจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นในสัปดาห์หน้าหลังทางการจีนออกมาตรการมากมายมาพยุงตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นเราประเมินปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าดังต่อไปนี้ 1) ผลการเจรจาหนี้ระหว่างกรีซกับรมว. คลังยูโรโซน 2) การปรับฐานของตลาดหุ้นจีน 3) การประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 4) การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 16 ก.ค. 

ประเด็นการเจราจาหนี้ของกรีซกับรมว. คลังยูโรโซน เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์มากขึ้นหลังโฆษกกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เปิดเผยว่า กรีซได้ยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการเพื่อขอรับเงินกู้ระยะ 3 ปีจากทางกองทุน ESM แล้วในวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับยืนยันที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขบางประการที่เจ้าหนี้เรียกร้องในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือ

นอกจากนั้นแล้วทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะของกรีซ (PDMA) ก็มีการเปิดเผยว่า รัฐบาลกรีซมีรายได้ 1.625 พันล้านยูโรจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลในวันที่ 8 ก.ค. โดย PDMA ระบุว่า พันธบัตรดังกล่าวมีอายุ 26 สัปดาห์ โดยมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.97% ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมูลเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซต้องพึ่งพาการประมูลพันธบัตรรายเดือนในการหารายได้ นับตั้งแต่ที่โครงการความช่วยเหลือจากต่างประเทศได้ยุติลง หลังจากที่กรีซมีความขัดแย้งกับเจ้าหนี้เกี่ยวกับเงื่อนไขในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือ

หากผลการหารือของรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันที่ 12 ก.ค. ไม่ยอมรับกับข้อเสนอของกรีซเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด (ซึ่งเป็นข้อเสนอสุดท้ายแล้วที่ทางยูโรโซนให้โอกาสกับกรีซ) เราคาดว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้จำนวน 3.5 พันล้านยูโรกับ ECB ในวันที่ 20 ก.ค. และทาง ECB อาจจะยกเลิกการจัดสรรวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ Emergency Liquidity Assistance (ELA) แก่ภาคธนาคารของกรีซ ส่งผลให้กรีซจะเข้าสู่ภาวะล้มละลายและต้องออกจากยูโรโซน ซึ่งหากกรณีเกิดขึ้นคาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลก (ซึ่งปรับตัวลดลงมาประมาณ 5-10% จากประเด็นกรีซ) น่าจะมีการปรับลดลงต่อ (ประมาณ 4-5% นำโดยตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งเป็นเจ้าหนี้หลักของกรีซกว่า 1.9 แสนล้านยูโร จากจำนวนหนี้ทั้งหมด กว่า 3 แสนล้านยูโร) ในวันที่ทราบความชัดเจนว่ากรีซต้องออกจากยูโรโซนแน่นอน แล้วหลังจากนั้นน่าจะเริ่มค่อยๆ ฟื้นตัวตามกพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ

แต่หากรมว. ยูโรโซนยอมรับข้อเสนอของกรีซและให้เงินช่วยเหลือก็จะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกคลายความกังวลแล้วกลับมาพุ่งขึ้นอย่างน้อย 4-5% ในสัปดาห์หน้าได้ ดังนั้นนักลงทุนต้องติดตามผลการหารือปัญหาหนี้ของกรีซในวันที่ 12 ก.ค. ให้ดี

Back to top button