“บลจ.วรรณ” มองหุ้นทั่วโลกผันผวนช่วงสั้น แนะทยอยสะสมกองทุนศักยภาพสูง

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับตัวผันผวน จากปรากฏการณ์ Short squeeze ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และอาจขยายวงกว้างไปยังตลาดหุ้นอื่นๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้นยุโรปซึ่งมีนักลงทุนสถาบันขายทำกำไรระยะสั้น (Short Sell) หุ้นในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม บลจ.วรรณ คาดว่าในตลาดหุ้นฝั่งเอเชียความผันผวนจะเกิดขึ้นน้อยกว่า เนื่องจากนักลงทุนสถาบันฝั่งเอเชียมีข้อจำกัดในการทำ Short Sell  มากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรป โดยบริษัทมองว่าอาจส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนอาจลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน และอาจนำไปสู่การปรับฐานของตลาดหุ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯในระยะสั้น

ทั้งนี้ท่ามกลางความผันผวนดังกล่าวข้างต้น บริษัทยังคงเชื่อมั่นในการกระจายการลงทุนในการตลาดหุ้นทั่วโลก โดยล่าสุดกองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M10 (ONE-GLOBALTOP8M10) ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย ซึ่งขณะนี้ได้ปิดเสนอขาย IPO เป็นที่เรียบร้อยหลังเปิดเสนอขายไปเพียง 20 นาทีของวันที่ 2 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา

โดยกองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M11 (ONE-GLOBALTOP8M11) จะเปิดเสนอขายอีกครั้งในวันที่ 16-22 ก.พ.นี้ เฉพาะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกสาขา

สำหรับกองทุนทริกเกอร์ฟันด์จะเหมาะสำหรับนักลงทุนเน้นระยะสั้น ขณะที่แนวทาง Asset Allocation ตามจังหวะตลาดยังเป็นกลยุทธ์สำหรับนักลงทุนระยะปานกลางถึงยาว แต่ในมุมมองระยะกลางถึงยาว บลจ.วรรณ ยังเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น และการปรับฐานในครั้งนี้จะเกิดขึ้นเพียงในระยะสั้น จึงแนะนำให้นักทุนระยะยาวอาศัยจังหวะที่ราคากองทุนปรับตัวลดลงมา ทยอยซื้อสะสมกองทุนที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้หลังจากจบการแพร่ระบาด Covid-19

โดยแนะนำให้สะสมกองทุน ONE -DISC และ ONE -UGG ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และกระจายการลงทุนเข้าสู่หุ้นเอเชียที่มีศักยภาพการเติบโตได้แก่ ONE -ALLCHINA โดยอาจพิจารณาลงทุนจัดสรรเงินบางส่วนลงทุนกองทุน ONE -GLOBFIN ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีหลังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว

“กองทุนทริกเกอร์เรากระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ศักยภาพในการเติบโต ทั้งนี้ หากราคาตลาดปรับตัวสูงเกินไป เราจะอาจพิจารณาปรับลงทุนในตลาดหุ้นอื่นๆ ได้อย่างเพื่อให้นโยบายการลงทุนมีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับภาวะตลาด อาทิ ญี่ปุ่น เวียดนาม หรือ พิจารณาถือเงินสดในบางช่วง”  นายพจน์กล่าว