สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มี.ค. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มี.ค. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 2.3% หลังจากบริษัท Ark Investment Management คาดการณ์ว่า ราคาหุ้นเทสลาจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,731.20 จุด เพิ่มขึ้น 103.23 จุด หรือ +0.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,940.59 จุด เพิ่มขึ้น 27.49 จุด หรือ +0.70% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,377.54 จุด เพิ่มขึ้น 162.31 จุด หรือ +1.23%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงลดลงหลังค่าเงินลีราของตุรกีร่วงลง และนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการออกมาตรการจำกัดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 424.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด หรือ +0.19%
ดัชนี DAX ปิดที่ 14,657.21 จุด เพิ่มขึ้น 36.21 จุด หรือ +0.25% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,726.10 จุด, เพิ่มขึ้น 17.39 จุด หรือ +0.26% ขณะที่ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,968.48 จุด ลดลง 29.48 จุด หรือ -0.49%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัย ซึ่งได้ช่วยชดเชยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มการเดินทาง ขณะที่หุ้นแอสตร้าเซนเนก้าพุ่งขึ้นรับผลทดลองประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,726.10 จุด เพิ่มขึ้น 17.39 จุด หรือ +0.26%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 61.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 64.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่ผันผวนในตุรกีอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำภายในประเทศ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 1,738.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 55.2 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 25.769 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 16.1 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 1,184 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 30.70 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 2,600.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% แตะที่ 91.7523 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.80 เยน จากระดับ 108.88 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9234 ฟรังก์ จากระดับ 0.9291 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2509 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2494 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1941 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1909 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3863 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3870 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7754 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7748 ดอลลาร์สหรัฐ