สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 เม.ย. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 เม.ย. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ หลังหุ้นเฟซบุ๊กทะยานขึ้นกว่า 7% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาด และปัจจัยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,060.36 จุด เพิ่มขึ้น 239.98 จุด หรือ +0.71% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,211.47 จุด เพิ่มขึ้น 28.29 จุด หรือ +0.68% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,082.55 จุด เพิ่มขึ้น 31.52 จุด หรือ +0.22%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากตลาดปรับตัวเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าหุ้นกลุ่มธนาคารยังคงพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนหลังการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งก็ตาม ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวขึ้นอย่างมาก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 438.77 จุด ลดลง 1.15 จุด หรือ -0.26%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,302.57 จุด ลดลง 4.41 จุด หรือ -0.07%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,154.20 จุด ลดลง 137.98 จุด หรือ -0.90% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,961.48 จุด ลดลง 2.19 จุด หรือ -0.03%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังตลาดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ อาทิ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และยูนิลีเวอร์
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,961.48 จุด ลดลง 2.19 จุด หรือ -0.03%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช่วยให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 65.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 68.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,768.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 3.3 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 26.085 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 14.6 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,197.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 18.40 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,948.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) หลังจากนักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ขยับลง 0.01% สู่ระดับ 90.6120 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9087 ฟรังก์ จากระดับ 0.9100 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2281 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2316 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 108.88 เยน จากระดับ 108.68 เยน แต่
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2126 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2123 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3950 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3944 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7776 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7793 ดอลลาร์สหรัฐ