สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พ.ค. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พ.ค. 2564
ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นทำนิวไฮเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ค.) และปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย ขณะที่ดัชนี Nasdaq ฟื้นตัวขึ้น หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนเม.ย.ที่ชะลอตัวในสหรัฐ ได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,777.76 จุด เพิ่มขึ้น 229.23 จุด หรือ +0.66%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,232.60 จุด เพิ่มขึ้น 30.98 จุด หรือ +0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,752.24 จุด เพิ่มขึ้น 119.40 จุด หรือ +0.88%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการที่แข็งแกร่งในยุโรป ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 444.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.91 จุด หรือ +0.89%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,385.51 จุด เพิ่มขึ้น 28.42 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,399.65 จุด เพิ่มขึ้น 202.91 จุด หรือ +1.34% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,129.71 จุด เพิ่มขึ้น 53.54 จุด หรือ +0.76%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 7,100 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว หลังได้แรงหนุนจากความหวังว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของโรคโควิด-19
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,129.71 จุด เพิ่มขึ้น 53.54 จุด หรือ +0.76%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ค.) และปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ด้วย โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรป แม้ว่านักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 64.90 ดอลลาร์/บาร์เรล และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 2.1%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 68.28 ดอลลาร์/บาร์เรล และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 2.3%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่อ่อนแอกว่าคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 15.6 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ 1,831.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้นราว 3.6% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ทรงตัวที่ระดับ 27.48 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,254.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 22.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 2,925.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ออกมา หลังจากผิดหวังที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนเม.ย.ออกมาต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.78% สู่ระดับ 90.2409
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.61 เยน จากระดับ 109.04 เยน, ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9010 ฟรังก์ จากระดับ 0.9087 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2141 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2184 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2165 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2055 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ 1.3996 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3884 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7846 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7772 ดอลลาร์