“ดาวโจนส์” ทรุดกว่า 600 จุด หวิดหลุดแนวรับ 34,000 วิตก “เงินเฟ้อ” สหรัฐพุ่ง
“ดาวโจนส์” ทรุดกว่า 600 จุด หวิดหลุดแนวรับ 34,000 วิตก “เงินเฟ้อ” สหรัฐพุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 600 จุด ใกล้หลุดระดับ 34,000 จุดท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, ธนาคาร และอุตสาหกรรม
โดย ณ เวลา 22.23 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,015.00 จุด ลบ 653 จุด หรือ 1.88%
ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงในวันนี้ ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 1.6% โดยนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ และหันไปซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ด้านนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้เกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการสร้างงานและช่วยเหลือครัวเรือนในสหรัฐวงเงินรวมกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยรัฐบาลสหรัฐออกร่างกฎหมาย American Jobs Plan วงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และร่างกฎหมาย American Families Plan วงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาครัวเรือนสหรัฐจากผลกระทบของโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากตัวเลข CPI พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น รวมทั้งอาจส่งผลให้เฟดชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยอาจลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน
ก่อนหน้านี้ เฟดเคยส่งสัญญาณลดวงเงิน QE ในปี 2556 ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างหนักในปีดังกล่าว