สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 พ.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 พ.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และเสนอให้เริ่มอภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันข้างหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชน หลังราคาบิตคอยน์ทรุดตัวลงเนื่องจากข่าวรัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,896.04 จุด ลดลง 164.62 จุด หรือ -0.48% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,115.68 จุด ลดลง 12.15 จุด หรือ -0.29% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,299.74 จุด ลดลง 3.90 จุด หรือ -0.03%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) โดยปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้มีการคุมเข้มนโยบายการเงินตามมาเร็วขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 436.34 จุด ลดลง 6.70 จุด หรือ -1.51%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,262.55 จุด ลดลง 91.12 จุด หรือ -1.43%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,113.56 จุด ลดลง 273.02 จุด หรือ -1.77% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,950.20 จุด ลดลง 84.04 จุด หรือ -1.19%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) โดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ถ่วงตลาดลงมากที่สุด ขณะที่การพุ่งขึ้นเกินคาดของอัตราเงินเฟ้อทำให้บรรดานักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,950.20 จุด ลดลง 84.04 จุด หรือ -1.19%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงในเอเชีย  รวมทั้งรายงานที่ว่า อิหร่านอาจกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 2.13 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 63.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. 2564

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 2.05 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 66.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง และราคาบิตคอยน์ดิ่งลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากข่าวรัฐบาลจีนประกาศห้ามการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินคริปโต

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 13.5 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,881.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2564

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 30.8 เซนต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 28.025 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 23.7 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 1,201.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 18.30 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,884.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และเสนอให้เริ่มอภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันข้างหน้า

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.55% สู่ระดับ 90.2418 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.23 เยน จากระดับ 108.86 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9042 ฟรังก์ จากระดับ 0.8964 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2136 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2058 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2167 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2228 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.4104 ดอลลาร์ จากระดับ  1.4190 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7712 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7801 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button