เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณน่าหวง “ตัวเลขคนว่างงาน” เพิ่มขึ้น ใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 6 ก.พ.68 พบว่า มีผู้ยื่นขอสวัสดิการจากการว่างงาน 1.89 ล้านคน ในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ม.ค.68 เพิ่มขึ้นจาก 1.86 ล้านคน จากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าผู้คนจำนวนมากยังคงว่างงานเป็นเวลานานขึ้น และสะท้อนให้เห็นว่าชาวอเมริกันจำนวนมากกำลังประสบปัญหาในการหางานใหม่

ขณะเดียวกัน ข้อมูลการเปิดรับสมัครงานและอัตราการลาออกของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ในเดือนธันวาคม ปี 2567 อัตราการจ้างงานอยู่ที่ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้อัตราการเปิดรับสมัครงานก็ลดลงอย่างต่อเนื่องด้วย

ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์หลายรายแสดงความเห็นตรงกันว่า ตลาดแรงงานกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ โดย ไรอัน สวีท หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐของ Oxford Economics กล่าวว่า สภาพแวดล้อมในปัจจุบันเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ที่ว่างงาน หรือไม่ได้อยู่ในความต้องการของตลาดแรงงาน แต่ต้องการงาน

ขณะที่ เนลา ริชาร์ดสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP กล่าวเสริมว่า การหางานใช้เวลานานขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี

ก่อนหน้านี้  เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) ได้เคยยอมรับถึงความท้าทายในเรื่องนี้ โดยประธานเฟด กล่าวว่า “เป็นสภาพแวดล้อมการจ้างงานที่ต่ำ ดังนั้นหากคุณมีงานทำ ทุกอย่างก็ถือว่าดี แต่หากคุณต้องหางาน อัตราการหางาน อัตราการจ้างงานก็ลดลง”

สำหรับ รายงานการจ้างงานประจำเดือนมกราคม มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะรายงานดังกล่าวจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะของตลาดแรงงาน และอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มในอนาคต

ทีมเศรษฐศาสตร์ของ Wells Fargo คาดการณ์ว่า รายงานดังกล่าวจะยังคงบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ไม่ถึงขั้นน่าตกใจ อย่างไรก็ตาม “ตัวเลขที่แท้จริง” จะบ่งบอกได้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะสามารถรักษาระดับความมั่นคงได้หรือไม่