“ดาวโจนส์” เด้งแรง 2,900 จุด หลัง “ทรัมป์” สั่งชะลอเก็บภาษี 90 วัน ประเทศเจรจา

“ดาวโจนส์” เด้งแรง 2,900 จุดรับข่าว “ทรัมป์” ชะลอขึ้นภาษี 90 วัน 75 ประเทศเจรจา-ลดภาษีตอบโต้เหลือ 10% จุดกระแสซื้อทั่วกระดาน


ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งแรงในวันพุธ (9 เม.ย. 2568) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการขึ้นภาษีต่อประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน โดยปรับลดอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ลงมาอยู่ที่ 10% กับประเทศที่ไม่ตอบโต้ แต่ยังคงภาษีเม็กซิโก-แคนาดา 25% และเก็บภาษีจีนเพิ่มเป็น 25% ส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ดันดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวพุ่งทำสถิติรายวัน

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 40,608.45 จุด เพิ่มขึ้น 2,962.86 จุด หรือ +7.87%
  • ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,456.90 จุด เพิ่มขึ้น 474.13 จุด หรือ +9.52%
  • ดัชนี Nasdaq Composite ปิดที่ 17,124.97 จุด เพิ่มขึ้น 1,857.06 จุด หรือ +12.16%

การปรับขึ้นครั้งนี้นับเป็นการพุ่งขึ้นรายวันที่สูงที่สุดในรอบหลายปี โดย ดาวโจนส์ ทะยาน 7.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่ S&P 500 พุ่ง 9.5% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายวันที่แรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกปี 2551 ส่วน Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้นถึง 12% ทุบสถิติการปรับขึ้นรายวันสูงสุดในประวัติการณ์ของดัชนี

แรงซื้อเริ่มไหลกลับเข้าสู่ตลาดเพียงไม่นานหลังเวลา 13:00 น. ตามเวลานิวยอร์ก หลังจากทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ประกาศผ่อนคลายมาตรการภาษีต่อประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ ยกเว้นจีน เป็นเวลา 90 วัน

โดยทรัมป์ระบุตอนหนึ่งว่า “มีประเทศมากกว่า 75 ประเทศที่เรียกร้องให้เจรจาหาทางออก… และตามคำแนะนำที่หนักแน่นของฉัน ประเทศเหล่านั้นไม่ได้ตอบโต้ในรูปแบบใด ๆ ทั้งสิ้น”

นักลงทุนมองว่าการผ่อนคลายนโยบายการค้าในครั้งนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยลดแรงตึงเครียดในภาคการค้าระหว่างประเทศ และกระตุ้นความเชื่อมั่นในตลาดการเงินทั่วโลกในระยะสั้น ขณะที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายยังคงติดตามท่าทีของประเทศคู่ค้า และรายละเอียดเชิงลึกของมาตรการภาษีใหม่อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางตลาดในระยะต่อไป

Back to top button