
หุ้นยุโรปพุ่งแรง! DAX บวก 892 จุด รับข่าว “ทรัมป์” เบรกเก็บภาษีตอบโต้
ตลาดหุ้นยุโรป ดีดแรงสุดในรอบกว่า 2 ปี รับสัญญาณบวกจากทำเนียบขาว หลัง “ทรัมป์” เบรกเก็บภาษีตอบโต้เป็นเวลา 90 วัน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (10 เม.ย.68) โดยดัชนีหลักปรับตัวขึ้นรายวันแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2565 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้ากับหลายประเทศคู่ค้า เป็นเวลา 90 วัน ส่งแรงหนุนให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง หลังเผชิญแรงเทขายหนักในช่วงก่อนหน้า
- ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 487.28 จุด บวกขึ้น 17.93 จุด หรือ +3.70%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,126.02 จุด บวกขึ้น 263 จุด หรือ +3.83%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 20,562.73 จุด บวกขึ้น 891.85 จุด หรือ +4.53%
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,913.25 จุด บวกขึ้น 233.77 จุด หรือ +3.04%
การระงับภาษีนำเข้าสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังเริ่มต้น โดยสหภาพยุโรป (EU) ก็ประกาศเลื่อนมาตรการภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 21,000 ล้านยูโรเช่นกัน ข่าวนี้สร้างความโล่งใจให้ตลาด หลังจากดัชนี STOXX 600 ร่วงไปแล้วกว่า 9% นับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีเมื่อ 2 เม.ย. และลดลงจากจุดสูงสุดในเดือนมี.ค. กว่า 13%
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ยังเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้าจีน รวมถึงภาษีนำเข้ารถยนต์และภาษีพื้นฐาน 10% ที่ยังมีผลบังคับใช้ ขณะที่ดัชนีความผันผวนของตลาดยูโรโซน (VSTOXX) ยังสูงถึงระดับ 37 จุด สะท้อนว่านักลงทุนคาดว่าตลาดยังจะเหวี่ยงแรงต่อเนื่อง
ด้านมุมมองต่อการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มเปลี่ยนไป นักลงทุนลดความมั่นใจว่า ECB จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ โดยความน่าจะเป็นลดลงจากเกือบ 100% เหลือ 97% และยังคาดว่า ECB จะลดดอกเบี้ยรวม 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในปีนี้
หุ้นทุกกลุ่มในตลาดยุโรปต่างปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกเทขายหนักก่อนหน้า ทั้งกลุ่มธนาคาร +5.2%, กลุ่มเหมืองแร่ +3.8% และกลุ่มพลังงาน +2.5% โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารซึ่งไวต่อการเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ย ทำผลงานดีที่สุดในรอบกว่า 3 ปี