
หุ้นยุโรปปิดลบ! หลัง ASML ร่วงฉุดหุ้นเทคฯ – นักลงทุนจับตา ECB ลดดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ รับแรงกดดันจาก ASML ร่วงแรง ฉุดหุ้นเทคฯ ลงด้วย หลังเจอแรงกดดันจากภาษีสหรัฐฯ พร้อมนักลงทุนจับตา “ECB” ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยรับมือเงินเฟ้อชะลอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (16 เม.ย.68) ท่ามกลางแรงกดดันจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง ASML ผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปยักษ์ใหญ่จากเนเธอร์แลนด์ เตือนถึงความไม่แน่นอนทางธุรกิจในปี 2568-2569 จากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา
สำหรับ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 507.09 จุด ลดลง 0.97 จุด หรือ -0.19%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,329.97 จุด ลดลง 5.43 จุด หรือ -0.074%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,311.02 จุด เพิ่มขึ้น 57.32 จุด หรือ +0.27% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,275.60 จุด เพิ่มขึ้น 26.48 จุด หรือ +0.32%
โดยหุ้น ASML ร่วงแรง 5.2% กดดันตลาดหนักสุดในวันดังกล่าว ขณะที่ดัชนีกลุ่มเทคโนโลยีร่วงเฉลี่ยถึง 2% จากความกังวลด้านนโยบายส่งออกของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อซัพพลายเชนชิปโลก
ทั้งนี้มีแรงกดดันเพิ่มเติมมาจากถ้อยแถลงของ Nvidia ที่เปิดเผยว่า บริษัทอาจต้องแบกรับค่าใช้จ่ายกว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ หากมาตรการควบคุมการส่งออกชิปไปจีนยังดำเนินต่อไป ส่งผลให้หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ยุโรปหลายตัวร่วงตาม ไม่ว่าจะเป็น ASM International, BE Semiconductor, Soitec, Infineon และ STMicroelectronics โดยราคาหุ้นในกลุ่มนี้ลดลงระหว่าง 1.3% – 3.2%
โดยมีความตึงเครียดด้านการค้า ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน กลับมาเป็นปัจจัยเสี่ยงอีกครั้ง โดย ดัชนี STOXX 600 เพิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบเดือนเมื่อสัปดาห์ก่อน นักลงทุนจึงหันไปจับตาผลประกอบการไตรมาสแรกเพื่อประเมินแรงกระทบ
ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า แนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปไตรมาสแรกปีนี้อาจหดตัวถึง 3% แย่กว่าที่เคยคาดไว้ที่ 2.2% สะท้อนแรงกดดันจากต้นทุนและความไม่แน่นอนด้านภาษี
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานยังเป็นตัวช่วยพยุงตลาด โดยปรับขึ้น 1.2% ตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้น Heineken พุ่งขึ้น 5% หลังรายงานยอดขายไตรมาสแรกดีกว่าคาด พร้อมคงเป้าหมายทางการเงินทั้งปี
ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ถูกจับตามองจากนักลงทุน โดยตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัว โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า อัตราเงินเฟ้อขั้นสุดท้ายของยูโรโซนเดือนมี.ค.อยู่ที่ 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน