“ดาวโจนส์” บวก 114 จุด หุ้นกลุ่ม “อุตสาหกรรม” หนุนตลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันจันทร์ (28 เม.ย.68) อย่างผันผวน โดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมช่วยหนุนให้ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลงจากแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Big Tech)

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 40,227.59 จุด เพิ่มขึ้น 114.09 จุด หรือ +0.28%
• ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 5,528.75 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.064%
• ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 17,366.13 จุด ลดลง 16.81 จุด หรือ -0.097%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ในรอบนี้ ได้แก่ Boeing Co. (BA) ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.44% หลังได้รับการปรับเพิ่มคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ของ Bernstein ประกอบกับการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 18% แตะระดับ 19.5 พันล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 0.49 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ขณะที่หุ้น Chevron Corp. (CVX) ปรับตัวขึ้น 0.97% ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน

ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทใหญ่ ๆ ในกลุ่ม เช่น Apple, Amazon, Microsoft และ Meta Platforms ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีการเพิ่มภาษีนำเข้าบางรายการในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ส่วนกลุ่มหุ้นรายตัว Nvidia (NVDA) ปรับตัวลดลง 2.05% หลังจากมีรายงานว่า Huawei Technologies ของจีนกำลังพัฒนาชิป AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจกลายเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ ขณะที่ Amazon (AMZN) ปิดที่ 187.70 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากวันก่อนหน้า ท่ามกลางความคาดหวังต่อการแถลงผลประกอบการที่กำลังจะมีขึ้น

บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ตลาดจะยังคงเผชิญแรงเหวี่ยงในระยะสั้น เนื่องจากต้องรอปัจจัยชี้นำจากผลประกอบการภาคเอกชนและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งรวมถึงรายงาน GDP ไตรมาสแรกและตัวเลขการจ้างงาน