SET บ่ายไซด์เวย์-จับตาตัวเลขเศรษฐกิจตปท.แนะสอย 9 หุ้นผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง
โบรกฯคาดแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ (25 ก.พ.) ดัชนีฯคงแกว่งไซต์เวย์ มีแนวรับ 1,320 จุด แนวต้าน 1,350 จุด แนะสอย 9 หุ้นผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (24 ก.พ.) ผันผวนคล้ายตลาดภูมิภาค โดยช่วงเช้าได้แรงส่งจากราคาน้ำมันปรับขึ้น แต่เจอ take profit หลังตัวเลขส่งออกไทยติดลบมากกว่าคาด แต่โมเมนตัมตลาดยังเป็นขาขึ้นจากแรงเก็งกำไร การเคลื่อนไหวของดัชนีขึ้นกับ Fund Flow ด้วย ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนรับรู้กันไปแล้ว แนะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ บ่ายนี้ดัชนีฯคงแกว่งไซต์เวย์ มีแนวรับ 1,320 จุด แนวต้าน 1,350 จุด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่มีความผันผวน โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยช่วงเช้าตลาดบ้านเราได้แรงส่งจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นไป แต่พอหลังจากที่ตัวเลขการส่งออกของไทยออกมาติดลบมากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ดัชนีฯย่อตัวลงจากแรง take profit ที่เข้ามา แต่ด้วยโมเมนตัมที่ตลาดฯยังเป็นขาขึ้นอยู่ ทำให้ดัชนีฯสามารถประคองตัวได้ จากแรงเก็งกำไรที่ยังมีเข้ามา
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของดัชนีฯก็ขึ้นอยู่กับ Fund Flow ที่ไหลเข้ามาด้วย ถ้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นแรงส่งต่อไปที่ดัชนีฯ ซึ่งตลาดฯก็จะได้แรงหนุนจากกลุ่มแบงก์, รับเหมาฯ และพลังงาน รวมถึงหุ้นขนาดกลางก็จะตามมา ส่วนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนถือว่ารับรู้กันไปมากแล้ว
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของแต่ละประเทศด้วย รวมถึงเมื่อตัวเลขส่งออกของไทยออกมาแล้ว ก็ต้องรอดูความเห็นจากภาครัฐฯ ซึ่งช่วงนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอาจฉุดการส่งออก แต่เชื่อว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กยังคงมีแรงเก็งกำไรเข้ามา
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งไซต์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,320 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 25 ก.พ.) ว่า การปรับลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ทำให้ Earning Yield Gap สูงขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อ SET โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อย่าง INTUCH,ADVANC,KTB,SIRI,KKPและTISCO รวมไปถึง REIT/INFRA Fund อย่าง DIF CPNRF และ BTSGIF
แนะนำ “ซื้อ” CPN ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 55 บาท จากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 ที่ 1.9 พันล้านบาท +9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนy และ 5% เทียบไตรมาสก่อนหน้าจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่คาดการณ์กำไรจะกลับมาเติบโตแกร่ง 20% ในปี 59 จากการรับรู้รายได้เต็มปีจากการเปิดสาขา West Gate ในช่วงไตรมาส 3/58 และ East Ville ในช่วงไตรมาส 4/58 รวมไปถึงจะมีการเปิดสาขาใหม่ที่นครศรีธรรมราชไตรมาส 3/59 นี้ด้วย
อีกทั้งราคาหุ้นทรงตัวในขณะที่กำไรเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ PE ปัจจุบันที่ 21.7x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีในอดีต ที่ 24.5x อยู่ 13% และมี Upside Potential จากธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการกำไร และ Valuation โดยจะเป็นโครงการคอนโดฯ ติดกับศูนย์การค้า คาดการณ์ IRR 24-25% สูงกว่าธุรกิจศูนย์การค้าที่มี IRR 15% และถ้าพิจารณาในทางเทคนิค ราคาหุ้นกำลังทดสอบแนวต้านระยะยาว บริเวณ 47 บาท ทะลุไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 49.25 หรือ 54.0 บาท ตามลำดับ
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,173.48 ล้านบาท ปิดที่ 174.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 994.03 ล้านบาท ปิดที่ 400.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 823.68 ล้านบาท ปิดที่ 2.74 บาท ลดลง 0.28 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 820.33 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 715.02 ล้านบาท ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 0.50 บาท