SET ขึ้นได้อีกรับเงินไหลเข้าชง 11 หุ้นเด่น เน้นเก็งงบ Q2
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังมีโอกาสขึ้นได้ต่อเนื่องจากกระแสเงินไหลเข้าตลาดเอเชีย อย่างไรก็ตามให้ระวังแรงขายหลังปรับขึ้นมาก การลงทุนยังคงเน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ดี และกลุ่ม Laggard
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.00 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.17 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังมีกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายชินโซ อาเบะ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสภาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันพรุ่งนี้ เพื่อรับมือกับผลกระทบ Brexit
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังมีโอกาสขึ้นได้ต่อเนื่องจากกระแสเงินไหลเข้าตลาดเอเชีย อย่างไรก็ตามให้ระวังแรงขายหลังปรับขึ้นมาก การลงทุนยังคงเน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ดี และกลุ่ม Laggard
หุ้นเด่นเลือก ADVANC-INTUCH-LH-QH-CK-SEAFCO-STEC-SCC-TPIPL-BIG และ ASEFA
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ค.)ว่า แม้ต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้าน 1,480 จุด แต่ประเมิน Downside Risk จำกัด ด้วย 1) Liquidity Driven จากสภาพคล่องในตลาดเงิน-ทุนโลกสูง และโอกาสที่ ECB และ BOJ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมวันที่ 21 ก.ค.และ 29 ก.ค.นี้ 2) Earnings Driven จากการปรับประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์ต่อเนื่อง และ 3) Political Driven จากสถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพต่อไปอีกอย่างน้อย 12 เดือนก่อนการเลือกตั้งปลายปี 2017 (คาดประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ)
แนะนำลงทุนใน 1) Yield Plays: “ซื้อ” ADVANC และ INTUCH ให้ปันผล 7-8% ปีนี้ (จ่ายทุกครึ่งปี) เป้าหมายระยะสั้นที่ 174-175 และ 59.5 บาทตามลำดับ รวมไปถึงกลุ่มอสังหาฯ ปันผลสูง 5% และราคายัง Laggard ตลาดอย่าง LH และ QH (ราคาต่ำกว่า NAV ที่ 3.2 มาก)และ 2) Infrastructure Plays: “ซื้อ” CK SEAFCO STEC SCC และ “เก็งกำไร” TPIPL (การนำ TPIPP เข้า Listed ปลายปีนี้เป็นปัจจัยบวกทาง Sentiment ด้วยแนวต้าน 2.50/2.56 บาท)
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ค.) คาดว่าจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรหุ้นออกมา หลังขึ้นมาอยู่ในกรอบ ซื้อมากเกินไป หรือดัชนีกำลังขึ้นไปเล่นที่ค่า +2SD หากขึ้นต่อ จะต้องมีแรงซื้อค่อนข้างสูงมากๆ วันนี้มองดัชนี SET ยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาครวมทั้งหุ้นพลังงาน โดยดัชนีมีแนวต้านที่ 1,480-1,485 จุด แนวรับที่ 1,468-1,463 จุด
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ค.) คาด SET ผันผวนตามตลาดหุ้นภูมิภาค และมีโอกาสขึ้นต่อจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ยังไหลเข้าเนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่า BOE จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ก.ค. ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นแรงจะเป็นปัจจัยบวกให้หุ้นกลุ่มพลังงานกลับมาเพิ่มขึ้นและเป็นกลุ่มนำตลาดในวันนี้ อย่างไรก็ตามเราคาดการปรับขึ้นของดัชนีจะเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากมีโอกาสที่นักลงทุนจะเข้ามาเทขายทำกำไรจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาแล้วในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ประกอบกับในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข ส่งออก/ นำเข้า เดือนมิ.ย.ของจีน หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ จะกลายเป็นปัจจัยลบกดดันบรรยากาศการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: Selective BUY
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BIG (ซื้อ /เป้า5 ), ASEFA (ซื้อ /เป้า 6.9) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 จะออกมาดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้