จัดทัพ 22 บจ.เด่น เทรนด์กำไรโตSET ทรงตัวรอผลลงประชามติฯ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่างรอผลลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญสุดสัปดาห์นี้ และเป็นโอกาสซื้อกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ การลงทุนเน้นหุ้นที่กำไรไตรมาส 2/59 และครึ่งปีหลังจะออกมาดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.86 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.25% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่างรอผลลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญสุดสัปดาห์นี้ และเป็นโอกาสซื้อกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ การลงทุนเน้นหุ้นที่กำไรไตรมาส 2/59 และครึ่งปีหลังจะออกมาดี

หุ้นเด่นเลือก PTT-KBANK-SCB-AOT-KTB-SCC-BJC-CPALL-HMPRO-GLOBAL-QH-MINT-CK-STEC-SEAFCO-ILINK-EA-TPCH-BWG-SVI-BA และ EPG

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ส.ค.) SET จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,500-1,514 จุด ก่อนการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งมองว่าการทำประชามติจะผ่านไปได้ เปิดทางเลือกตั้งปลายปี 2560 และเป็นโอกาส “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,550 จุด และสิ้นปี 1,620 จุด…สำหรับการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เมื่อวานนี้ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ตามคาด และใช้มาตรการ QE อีกครั้ง EUR6 หมื่นล้าน/เดือน

ทำอะไรดี: “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาดหลังรับร่างรัฐธรรมนูญสุดสัปดาห์นี้ โดยแบ่งเป็น

1) เป้าหมาย Fund Flow : PTT KBANK SCB AOT KTB SCC

2) Sentiment การบริโภคดีขึ้นต่อ: BJC (ลุ้นเข้า MSCI…Technical Story มองต้าน 55 บาท) CPALL HMPRO GLOBAL QH และ MINT

3) เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทางเลือก : CK STEC SEAFCO ILINK (งานวางสายไฟฟ้า และเคเบิ้ลใต้น้ำ – Trade Code ให้แนวต้าน 24 บาท) EA TPCH และ BWG

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ส.ค.) ว่า SET วันนี้ ยังประคับประคองตัวหรือแกว่งในกรอบแคบเพื่อรอผลการลงประชามติ อย่างไรก็ตาม ช่วงท้าย ดัชนีอาจแกว่งในกรอบที่กว้างขึ้น จากแรงซื้อ-ขายในการเก็งผลประชามติ มองแนวต้านที่ 1,512-1,517 จุดและแนวรับที่ 1,500-1,495 จุด หุ้นแนะซื้อเก็งกำไรคือ SVI, AOT และ BA ซึ่งราคาหุ้นกลุ่มการบินส่วนใหญ่น้อยกว่า SET นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ส.ค.) ว่า SET วันนี้บวกกรอบจำกัด ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นบวกหลังราคาน้ำมันรีบาวด์ต่ออีก 1.6% และเมื่อวาน BOE ลดดอกเบี้ยอ้างอิงสู่ 0.25% และออกมาตรการ QE รอบใหม่ ขณะที่วานนี้ต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิพร้อมกับค่าเงินบาทแข็งค่า ทั้งนี้ SET น่าจะขึ้นไม่แรงมากเพราะตลาดรอผลประชามติ 7 ส.ค. และรอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ค่ำวันนี้ ซึ่งจะมีนัยยะต่อแนวโน้มนโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ส.ค.)คาด SET index น่าจะยังผันผวนอยู่ในกรอบแคบในทิศทางขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ BOE ตามตลาดคาด ซึ่งจะเป็นแรงหนุน Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่อาจชะลอการลงทุนเพื่อรอผลประชามติในวันที่ 7 ส.ค. นี้ ที่จะเป็นปัจจัยบ่งชี้การเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้าหรือไม่ แม้ผลประชามติจะออกมาไม่รับร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ แต่ก็เชื่อว่าตลาดหุ้นจะไม่ปรับลงหรือปรับลงเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น เพราะการปรับขึ้นของ SET ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันไม่ได้อยู่บนคาดหวังของผลการทำประชามติครั้งนี้  สำหรับวันนี้หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะยังเป็นกลุ่มนำตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่ไม่มาก

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : EPG (ราคาหุ้นร่วง 7.2% ในช่วงสัปดาห์นี้ จากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการซึ่งจะประกาศในวันที่ 15 สิงหาคม แต่จากการพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทวานนี้ คาดรายได้จะยังเพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสก่อน และ 21% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็น 2.5 พันล้านบาทจากการเติบโตของยอดจำหน่ายฉนวนยาง และ ชิ้นส่วนยานยนต์ และ คาดกำไรสุทธิประมาณ 385 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อน และ 60% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงถือเป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อ) 

Back to top button