SET บ่ายผันผวน-รอดูผลประชามติฯชู 13 หุ้นเด็ดน่าสอย งบฯ Q2/59 หรู

SET บ่ายผันผวน แนะจับตารอดูผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อาจจะทำให้นักลงทุนบางส่วนอยากลดความเสี่ยง พร้อมให้แนวรับ 1,510 แนวต้าน 1,520-1,530 จุด โบรกฯ ชู 13 หุ้นเด็ดน่าสอย นำโดย AOT, ADVANC, KTB, SCC, BJC, CPALL, HMPRO, QH, MINT, CK, PTT, KBANK และSCB


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (5 ส.ค.) ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค รับแรงหนุนหลักจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันขึ้น และยังได้ผลบวกจาก BoE ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และออกมาตรการ QE ด้วย บ่ายนี้ตลาดฯผันผวน เพราะสุดสัปดาห์มีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้นักลงทุนบางส่วนอยากลดความเสี่ยง พร้อมให้แนวรับ 1,510 แนวต้าน 1,520-1,530 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก รับ Sentiment บวกจากภายนอกประเทศ โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานจะเป็นตัวหลักในการผลักดันตลาดฯ หลังจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และยังได้มีการออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วย ทำให้ตลาดหุ้นหลายแห่งปรับตัวขึ้นมา

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯมีโอกาสที่จะผันผวนได้มากขึ้น เพราะในสุดสัปดาห์นี้จะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญของไทย ซึ่งทำให้ดัชนีฯมีโอกาสที่จะติดลบได้ในระหว่างการซื้อขาย เพราะนักลงทุนบางส่วนก็อาจจะลดความเสี่ยง พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,530 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (5 ส.ค.) ว่า SET ภาคเช้าปรับสูงขึ้นเหนือแนวต้านระยะสั้นที่ 1,514 จุด ตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดนำโดยหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ออกมาดี และมี Outlook ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมอย่าง ADVANC และ INTUCH รวมไปถึงหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT PTTEP ที่ได้รับผลดีจากการปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันเกือบ 3% เมื่อคืนนี้

สำหรับการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญสุดสัปดาห์นี้ คาดว่าจะผ่านไปได้ เป็นปัจจัยบวกต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า และ SET ในระยะ 6 เดือนด้วยเป้าหมาย 1,550 และถัดไปที่ 1,620 จุด แนะนำ “ซื้อ” AOT ADVANC KTB SCC BJC CPALL HMPRO QH MINT CK และ “เก็งกำไร” PTT KBANK SCB

ในขณะเดียวกันแนะนำ“ซื้อ” ADVANC เป้าหมายพื้นฐาน 190 บาท จาก 1) Outlook ช่วง 2H/59 ดีขึ้นกว่าเดิม จากรายได้ที่ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการรักษาฐานลูกค้า 2G ลดลงเหลือ 5 พันล้านบาท จากเดิมคาด 8 พันล้านบาท 2) มี Upside Risk ต่อประมาณการกำไรทั้งปีที่ 3.6 หมื่นล้านบาท และ 3) Trading Range อิง Dividend Yield ที่ 6-7% ที่ 169-197 บาท มี Reward to Risk ที่ 2x และ 4) ในทางเทคนิคราคาหุ้นทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแล้วมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 185 และ 190 ตามลำดับ

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

ADVANC   มูลค่าการซื้อขาย 1,720.11 ล้านบาท ปิดที่ 179.00 บาท เพิ่มขึ้น  3.00 บาท

BEM      มูลค่าการซื้อขาย 1,452.83 ล้านบาท ปิดที่   8.10 บาท เพิ่มขึ้น  0.05 บาท

TRUE     มูลค่าการซื้อขาย 1,423.18 ล้านบาท ปิดที่   8.60 บาท ลดลง   0.05 บาท

AAV      มูลค่าการซื้อขาย 1,206.32 ล้านบาท ปิดที่   7.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

KBANK    มูลค่าการซื้อขาย   871.77 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

Back to top button