เก็ง 9 หุ้นร้อน รอจังหวะอ่อนตัวเข้าช้อนกูรูมองบึ้มภาคใต้กระทบ SET ระยะสั้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เปิดปรับตัวลงเนื่องจากมีเหตุการณ์วินาศกรรมในภาคใต้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะส่งผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น และเชื่อว่าจะมีแรงช้อนซื้อเข้ามาทำให้ตลาดปิดปรับขึ้นได้ ขณะที่แนะนำให้จับตาการประกาศ GDP ของไทยที่จะประกาศในวันนี้ การอ่อนตัวของราคาหุ้นในกลุ่มหลักเป็นโอกาสซื้อสะสม


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.77 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นและสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอเกินคาด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เปิดปรับตัวลงเนื่องจากมีเหตุการณ์วินาศกรรมในภาคใต้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะส่งผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น และเชื่อว่าจะมีแรงช้อนซื้อเข้ามาทำให้ตลาดปิดปรับขึ้นได้ ขณะที่แนะนำให้จับตาการประกาศ GDP ของไทยที่จะประกาศในวันนี้ การอ่อนตัวของราคาหุ้นในกลุ่มหลักเป็นโอกาสซื้อสะสม

หุ้นเด่นเลือก AOT-HMPRO-ROBINS-CPALL-BA-TOP-GFPT-CPF และ BR

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (15 ส.ค.) คาดว่าจะปรับตัวลง เนื่องจากมีเหตุการณ์วินาศกรรมในภาคใต้ แต่มองเป็นผลกระทบเพียงแค่ระยะสั้น และในกรอบจำกัดเท่านั้น อีกทั้งเริ่มเห็นความคืบหน้า ดังนั้นจึงมองว่าน่าจะมีแรงช้อนซื้อเข้ามาหนุน ทำให้ตลาดฯน่าจะปิดปรับขึ้นได้ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย หลังจากที่ตลาดสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาติดลบเล็กน้อย จากข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐฯที่ออกมาผิดหวังเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม วันนี้ให้ติดตามตัวเลข GDP ของไทยที่จะประกาศในวันนี้ และความคืบหน้าของเหตุการณ์วินาศกรรมในภาคใต้ต่อไปด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,532 ถัดไป 1,520-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555-1,560 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ส.ค.) คาด GDP ไทยไตรมาส 2/59 ที่ประกาศเข้านี้จะขยายตัว 3.5% และมีโอกาสที่สภาพัฒน์ฯ จะปรับประมาณการ GDP ปีนี้ขึ้น เป็น Sentiment “บวก” ช่วยลดแรงขายจากเหตุระเบิด 13 แห่งใน 7 พื้นที่ภาคใต้ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเมินแนวรับ 1,533 หรือไปปิด Gap ทางเทคนิคที่ 1,520 จุด ซึ่งเป็นการลดความร้อนแรงของ SET หลังปรับสูงขึ้นแรงก่อนหน้านี้

แนะนำ “ซื้อ” AOT HMPRO และ ROBINS ในจังหวะการปรับลดลงของ SET และ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มถูก Consensus ปรับกำไรขึ้น

1) “ซื้อ” AOT HMPRO และ ROBINS: เหตุระเบิดเมื่อ ส.ค.ปีก่อนกดดันหุ้นกลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล สายการบิน และค้าปลีก ซึ่งผลกระทบต่อกำไรจำกัด และผลกระทบต่อราคาหุ้นเป็นเพียงผลระยะสั้น เป็นโอกาส “ซื้อ” AOT (รับ 410/402), HMPRO (รับ 10.4) และ ROBINS (รับ 61-62)

2) Consensus มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรขึ้น : CPALL (กำไรไตรมาส 2/59) BA (กำไรปกติไตรมาส 2/59ดีกว่าคาด แนวรับ 23.6) TOP GFPT CPF (กำไรไตรมาส 2/59ดีกว่าคาด และจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 3/59) และ ROBINS

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ส.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: SET Index น่าจะผันผวนในกรอบแคบตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ  เพราะเชื่อว่า Fund Flow ต่างชาติที่น่ายังคงไหลเข้าต่อเนื่อง จาก 2 ปัจจัยบวกหลักคือ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้จะมีรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของไทยที่ตลาดคาดจะเติบโต 3.2-3.3% ใกล้เคียงหรือดีขึ้นจาก 3.2% ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ประกอบผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 ที่รายงานมาแล้ว 370 บริษัทหรือคิดเป็น 75% ของมูลค่าตลาดรวม เพิ่มขึ้นกว่า 19% จากไตรมาสก่อนและ 14% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนซึ่งดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก CPALL HMPRO GLOBAL กลุ่มอาหารอย่าง CPF MALEE

อย่างไรก็ตามหลังการประกาศงบแต่ละครั้งก็มักจะเกิด Sell on fact บ้างเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นหุ้นที่ปรับขึ้นแรงจากงบที่ดีตามคาดและดีกว่าคาดเราแนะนำให้ขายทำกำไรบางส่วนก่อนแล้วค่อยซื้อกลับ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยต้องติดต่อในสัปดาห์นี้ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นเช้าวันนี้โต 0.2% ต่ำกว่าคาด รายงานการประชุมเฟดรอบที่ผ่านมาในวันพุธนี้ รายงานประชุม ECB วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ตัวเลขตลาดบ้านในจีน สำหรับเหตุระเบิดหลายจุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคาดจะมีผลกระทบต่อตลาดเล็กน้อยเนื่องจากสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงและบานปลาย แต่หาก SET ปรับลงจะเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมรอบใหม่

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: Selective BUY/ซื้อเมื่ออ่อนตัว/ระวัง Sell on fact

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : CPF (ไตรมาส 2/59 ดีกว่าคาดมาก) BR (ซื้อเก็บสะสม มีข่าวดีรออยู่ แม้คาดงบไตรมาส 2/59 จะไม่สวย)

Back to top button