SET บ่ายผันผวน แนะจับตาเม็ดเงินต่างชาติโบรกฯชู 6 หุ้นเด็ดมีแนวโน้มปรับเป้ากำไรเพิ่ม
SET บ่ายผันผวน แนะจับตาเม็ดเงินต่างชาติ พร้อมให้แนวรับ 1,535-1,520 แนวต้าน 1,555-1,560 จุด โบรกฯ ชู 6 หุ้นเด็ด กลุ่ม Consensus ที่มีแนวโน้มปรับเป้ากำไรเพิ่ม นำโดย CPALL, CPF, BA, TOP, GFPT และ ROBINS
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (15 ส.ค.) ปรับตัวได้ดีกว่าที่คาดแม้ช่วงต้นจะตอบรับเหตุวุ่นวายทางภาคใต้ แต่มีแรงดีดกลับขึ้นมาทำให้ทรงตัว มองมีผลกระทบระยะสั้นแต่คงไม่มาก แนะจับตาเม็ดเงินต่างชาติ ส่วน GDP ไทยไตรมาส 2/59 ออกมาดีกว่าคาดช่วยหนุนตลาดฯ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งทั้งบวก-ลบ บ่ายนี้ตลาดฯคงผันผวน พร้อมให้แนวรับ 1,535-1,520 แนวต้าน 1,555-1,560 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ แม้ช่วงต้นดัชนีฯจะปรับตัวลงจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของภาคใต้ แต่ก็สามารถดีดกลับขึ้นมาอยู่ในลักษณะทรงตัว มองเหตุการณ์ดังกล่าวคงจะต้องรอดูความคืบหน้าใน 3-5 วันว่าจะจับคนร้ายได้หรือไม่ และมีการควบคุมสถานการณ์ได้ดีแค่ไหน อย่างไรก็ดี มองว่าผลกระทบคงจะเป็นแค่ช่วงสั้น และกลุ่มท่องเที่ยวก็คงกระทบบ้างแต่ไม่มาก
นอกจากนี้ จะต้องรอดูเม็ดเงินของต่างชาติด้วยว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรนับจากนี้ไป เพราะที่ผ่านมาก็เข้ามาเป็นแสนล้านแล้ว อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจไทยงวดไตรมาส 2/59 ก็ถือว่าดีน่าจะมาช่วยหนุน Downside ของตลาดฯได้ ดังนั้นช่วงนี้จึงมองว่าตลาดฯคงจะผันผวนอยู่ คนที่เล่นเก็งกำไรก็ให้ระวังด้วย ส่วนคนที่ซื้อลงทุนก็เป็นโอกาสในการสะสมหุ้น
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในกลุ่ม TIP ถือว่าตลาดหุ้นไทยดูดีสุด ทั้งตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ติดลบมากกว่าบ้านเรา ทำให้เห็นว่าควรจะเฝ้าระวัง Fund Flow ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะซึมอยู่แม้ช่วงเช้าทำได้ดี แต่คงจะไม่ทำให้บวกสวนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไปมากได้ เพราะแม้ว่าจะไม่แย่แต่ก็ยังไม่คลี่คลาย พร้อมให้แนวรับ 1,535-1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555-1,560 จุด
บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (15 ส.ค.) ว่า SET ภาคเช้าในช่วงเปิดตลาดเป็นไปอย่างจำกัด และกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดโดยตรง อย่างกลุ่มท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรงแรม กลุ่มสายการบิน เป็นหลัก ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ 1) เป็นเป้าหมายของการไหลเข้าของกระแสเงินทุน 2) Consensus มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไร และเป้าหมายพื้นฐานขึ้น และ 3) กลุ่มที่ได้รับผลดีจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ปรับสูงขึ้นเป็น “กลุ่มนำ” SET นอกจากนี้ GDP ไตรมาส 2/59 +3.5% เร่งตัวขึ้นจาก +3.2% ในไตรมาส 1/59 เป็น “ตัวช่วย” Sentiment ตลาด.
ในขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ Consensus มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรขึ้น อย่าง CPALL CPF BA TOP GFPT และ ROBINS รวมไปถึง “ซื้อ” หุ้นที่ราคาหุ้นปรับลดลงเช้านี้ แต่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดจำกัด อย่าง AOT และ HMPRO
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,570.34 ล้านบาท ปิดที่ 19.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,110.71 ล้านบาท ปิดที่ 414.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,756.39 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,698.98 ล้านบาท ปิดที่ 344.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท