SET ทรงตัว เช็ค 9 หุ้นกำไรโต-เทคนิคเด่น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังทรงตัวรอความชัดเจนจากสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ ขณะที่ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ชี้นำ การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรในไตรมาส 3/59 ออกมาดี และมีสัญญาณบวกทางเทคนิค


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.62 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังมีความผันผวน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังทรงตัวรอความชัดเจนจากสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ ขณะที่ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ชี้นำ การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรในไตรมาส 3/59 ออกมาดี และมีสัญญาณบวกทางเทคนิค หุ้นเด่นเลือก BJC-BEAUTY-CPF-HMPRO-IFEC-FOCUS-PLAT-KTB และ BBL

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ส.ค.) การพักฐานยังเป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่การปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้นโลก และราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อคืนนี้ จะเป็นปัจจัยหนุนการปรับสูงขึ้นของ SET วันนี้ แต่เรายังมองความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” ระยะสั้นของ SET ต่อไป ด้วยแนวรับ 1,533/1,520 หรือถัดไปที่ 1,470 จุด จาก 1) SET ปรับสูงขึ้นเร็วเกินไป หรือเกือบ 10% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา 2) Reward to Risk ระยะสั้นที่ 0.9 เท่า ไม่น่าสนใจ อิง Upside ที่ 1,558 จุด ขณะที่ Downside ที่ 1,520 จุด 3) เมื่อพิจารณาจาก Trade Code หุ้นที่มี Momentum (เฉพาะหุ้น TNS Coverage) บวกเหลือ 40% ของ Market Cap เท่านั้น

แนะนำ “Selective” หุ้นที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/59 ดีต่อเนื่อง

1. BJC เป้าหมาย 50 บาท รับรู้กำไรจาก BIGC เต็มไตรมาส ต้นทุนการเงินลด

2. BEAUTY เป้าหมาย 11 บาท ยอดขายต่อสาขาเดิมโตเด่น 14.5% ต่อปี หนุนกำไรเติบโต 47-41% ในปี 2559-60

3. CPF เป้าหมาย 33 บาท ธุรกิจไก่-กุ้งฟื้นตัว ได้ประโยชน์จากการบริโภคฟื้นตัวผ่าน CPALL

4. HMPRO เป้าหมาย 13 บาท ปรับธุรกิจรับ Life Style ผู้บริโภคเปลี่ยนไป คาดกำไรโต 18% ปีนี้ และ 20% ในปี 2560

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ส.ค.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ประเมินตลาดยังรอความชัดเจนการประชุมแจ็คสัน โฮลในวันศุกร์นี้ โดยวาง Filter แนวรับสำคัญไว้ที่ 1,530 จุด มีแนวต้าน 1,550 จุด แนะนำเทรดดิ้งตามกรอบการลงทุน ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีโมเมนตัมบวกทางเทคนิค เช่น IFEC, FOCUS, PLAT

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ส.ค.) คาด SET น่าจะผันผวนในกรอบแคบตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้าตลาด ขณะที่ปัจจัยที่นักลงทุนเฝ้ารอและกังวลมีน้ำหนักมากกว่า โดยเฉพาะตัวเลขส่งออกนำเข้าของไทย และจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์ รวมถึงความคิดเห็นของเยลเลนที่จะกล่าวสุนทรพจน์ที่ Jackson Holes ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดด้วย ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าน่าจะเกิดแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง หลัง SET ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีกว่า 20% และเหลือ upside ไม่มากจาก SET target สิ้นปีนี้ที่ประมาณ 1,550-1,600 จุด

ยังเน้นลงทุนในหุ้นที่อิงการบริโภคเป็นหลักโดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะพยุงตลาดในวันนี้ตามราคาน้ำมันดิบที่รีบาวด์เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนหุ้นขนาดกลางถึงเล็กจะยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้ยังเข้าสู่ช่วงฤดูจ่ายปันผลก็อาจทำให้เกิดแรงกดดัน SET พอสมควร

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY/ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : KTB และ BBL (หุ้น top pick ในกลุ่มแบงก์ของเรา)

Back to top button