SET บ่ายแกว่งแคบ จับตาตัวเลขศก.สหรัฐฯโบรกฯแนะ “ซื้อ” ADVANC ชูเป้า 190 บาท

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (29 ส.ค.) ปรับตัวลง หลังเฟดยังไม่ให้สัญญาณชัดเจนในการการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯงวดส.ค.ในวันศุกร์นี้ก่อน ซึ่งถ้าออกมาแข็งแกร่งก็มีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งสะท้อนความกังวลโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้มีมากขึ้น ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบ ยกเว้นตลาดญี่ปุ่นที่อยู่ในแดนบวก หลังมีแววออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งตัว โดยมีแนวรับที่ 1,540-1,520 ส่วนแนวต้าน 1,550 ถัดไป 1,560-1,570 จุด

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่ได้ให้สัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวเพียงว่า เงินเฟ้อ และตัวเลขด้านแรงงานได้เข้ามาอยู่ในระดับเป้าหมายของเฟดแล้ว พร้อมให้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรงวดเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้อีกที ซึ่งถ้าออกมาแข็งแกร่งก็มีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้น โดยเฟดจะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้

อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าขึ้นนับตั้งแต่ก่อนที่ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความกังวลโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้มีมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดฯช่วงนี้คงจะแกว่งตัว และเป็นจังหวะที่จะต้อง Wait & See รอดูตัวเลขการจ้างงานอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้กันอีกที

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็จะเคลื่อนไหวในแดนลบ ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่อยู่ในแดนบวก หลังจากที่ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกมากล่าวว่ายังสามารถที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มเติมอีก จึงเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น และทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีของญี่ปุ่น เพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ได้ถูกผลกระทบจากเงินเยนแข็งค่ามาก แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะแกว่งตัว พร้อมให้แนวฟิวเตอร์และแนวรับไว้ที่ 1,540-1,520 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,550 ถัดไป 1,560-1,570 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (29 ส.ค.) ว่า   SET ภาคเช้า ยังแข็งแกร่งจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานอย่าง PTTEP และ PTT อย่างไรก็ดี่เราประเมินความ “ผันผวน” ของ SET จะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากการปรับสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว (Bond Yield 10 ปี) ที่ทำให้ Earnings Yield Gap มีความน่าสนใจลดลง

ในขณะเดียวกัน หุ้น ADVANC ให้ Dividend Yield สูงเกือบ 7% แม้ราคาหุ้น ADVANC ปรับลดลงหลุดแนวรับระยะสัปดาห์วันนี้ และยังไม่มีสัญญาณซื้อในทางเทคนิค แต่เรากลับมองว่าการปรับลดลงของ ADVANC (รวมไปถึง INTUCH) เป็นโอกาสที่ดีในการ “ซื้อ” โดยคาดหวังการปรับสูงขึ้นไปที่ 185-190 บาท ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจาก 1) แม้ Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่คาดว่าดอกเบี้ยในประเทศยังทรงตัวที่ 1.50% ไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย 2) ราคาหุ้นที่ปรับลดลงทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระยะ 12 เดือนข้างหน้าสูงเกือบ 7% ซึ่งสูงกว่า ค่าเฉลี่ย + 1 Standard Deviation ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่มี Downside Risk จำกัดแล้ว

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

BEM    มูลค่าการซื้อขาย 1,851.18 ล้านบาท ปิดที่   7.75 บาท ลดลง   0.20 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,094.14 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท ลดลง   3.00 บาท 

BLAND  มูลค่าการซื้อขาย   894.28 ล้านบาท ปิดที่   1.80 บาท เพิ่มขึ้น  0.07 บาท

CBG    มูลค่าการซื้อขาย   876.34 ล้านบาท ปิดที่  69.75 บาท เพิ่มขึ้น  3.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย   792.55 ล้านบาท ปิดที่  56.75 บาท ลดลง   1.00 บาท