SET บ่ายยืนลบ-ขึ้น XD หุ้น PTT กระทบดัชนีแนะซื้อ PLANB เป้า 7.20 บ. ชูกำไรโตปี 60

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (31 ส.ค.) ผันผวนในกรอบไซด์เวย์ เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคที่เช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย หลังตลาดฯไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาชี้นำตลาดฯ  ขณะที่ยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ ส่วนตลาดหุ้นไทยวันนี้มีขึ้น XD หุ้น PTT ทำให้กระทบดัชนีราว 2 จุด ส่วนแนวโน้มช่วงบ่ายนี้คาดว่าตลาดฯจะยังคงเงียบเหงา และการปรับลดลงจะไม่มาก พร้อมให้แนวรับ 1,535 แนวต้าน 1,555 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เงียบเหงา ผันผวนในกรอบไซด์เวย์ แนวเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ภายหลังจากที่ตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา ซึ่งนักลงทุนต่างก็ยังจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ ก่อนที่จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 ก.ย.

หากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีมาก โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย.ก็มีสูงขึ้น และตลาดฯก็คงจะซึม แต่ถ้าตรงกันข้ามตัวเลขออกมาไม่ได้ดีมากนัก นักลงทุนก็จะหันไปมองการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 ก.ย.นี้ ซึ่งก็มีความคาดหวังในเชิงบวกว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดฯก็อาจจะดีดตัวขึ้นได้

สำหรับตลาดหุ้นไทยวันนี้ก็มีการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT ทำให้ราคาหุ้น PTT ปรับตัวลงกระทบดัชนีประมาณ 2 จุด และช่วงนี้จะเห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดของตลาดฯบางลงไป เพื่อรอปัจจัยใหม่หรือตัวที่จะมาชี้นำตลาดฯ ดังนั้น ช่วงนี้ก็ให้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจากทางยุโรป และสหรัฐฯไปก่อน ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ และอาจปรับตัวลงแต่ยังอยู่ในกรอบไม่มากนัก พร้อมให้แนวรับ 1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (31 ส.ค.) ว่า SET ภาคเช้าปรับตัวลงจากการขึ้น XD ของ PTT 6 บาท (จ่ายวันที่ 16 ก.ย.) รวมไปถึงการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ Brent ต่อเนื่อง 1.8% จะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,530 จุด และถัดไปที่ Gap 1,520 จุด

SET ยังคงมีความเสี่ยงจาการพักฐานต่อเนื่องจาก 1) โอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น หนุน Bond Yield ล่าสุดปรับขึ้นมาที่ 2.20% ส่งผล Earning Yield Gap (ส่วนต่างระหว่าง E/P และ Bond Yield 10 ปี) มาที่ 3.7% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 4.0% 2) การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะราคาน้ำมัน

ในขณะเดียวกันแนะนำ“ซื้อ” PLANB พื้นฐาน 7.20 บาท (เดิม 5.80 บาท) กำไรมีแนวโน้มกลับมาเติบโตสูง 44% ในปี 2560 จาก 1) รายได้จากการเป็น Agent โฆษณาทีมฟุตบอลไทย + Thai Premier League 2) เศรษฐกิจฟื้นหนุนรายได้ค่าโฆษณาโดยตรง และ 3) กำไร ครึ่งปีหลังปีนี้มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นทำ Record High รายไตรมาส ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับลดลงมาทำให้ PEG ลดลงจาก 1.1-5.6x ในปี 2558-2559 เหลือ 0.9x ในปี 2560 4) ทางเทคนิคแกว่งตัวยกฐานขึ้นด้วยรูปแบบ Morning Morning Star มีเป้าหมายที่ 6.50 และ 6.90 บาทตามลำดับ

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 1,235.61 ล้านบาท ปิดที่  62.50 บาท เพิ่มขึ้น  1.25 บาท

SCC    มูลค่าการซื้อขาย   798.80 ล้านบาท ปิดที่ 524.00 บาท เพิ่มขึ้น  4.00 บาท

PTT    มูลค่าการซื้อขาย   728.45 ล้านบาท ปิดที่ 347.00 บาท ลดลง   7.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย   722.02 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท ลดลง   1.00 บาท

AOT    มูลค่าการซื้อขาย   628.01 ล้านบาท ปิดที่ 399.00 บาท ลดลง   1.00 บาท