SET ผันผวนต่อ ชง 10 หุ้นแกร่งรับเทรนด์ดอลล์แข็ง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังผันผัวนในกรอบแคบ จากความกังวลต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด แนะนำลงทุนในกลุ่มที่ได้รับผลดีจากค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่า รวมถึงกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดี และมีสัญญาณบวกทางเทคนิค


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.59 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 3% และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังผันผัวนในกรอบแคบ จากความกังวลต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด แนะนำลงทุนในกลุ่มที่ได้รับผลดีจากค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่า รวมถึงกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดี และมีสัญญาณบวกทางเทคนิค

หุ้นเด่นเลือก KCE-CPF-BR-THANI-KTC-PLANB-AAV-IRPC-AGE และ FOCUS

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (1 ก.ย.) ว่า SET ยังแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ โดยการปรับลดลงของราคาน้ำมันไม่ได้ส่งผลมากนักต่อหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT PTTEP ทำให้การ “พักฐาน” ยังเป็นไปอย่างจำกัด… อย่างไรก็ตามยังมีความกังวลต่อการปรับสูงขึ้นของ Bond Yield ช่วงปลายปีนี้เหมือนเดิม ทำให้ยังแนะนำ “จำกัด” พอร์ต และใช้กลยุทธ์ “Selective” ต่อไป

แนะนำพอร์ตหลัก “จำกัด” เงินลงทุน…และ “Selective” ในกลุ่มหุ้น

1) ผลดีเงินบาทอ่อนค่า กำไรเติบโตดี : KCE CPF BR

2) รายได้ภาคการเกษตร-บริโภคเติบโต : THANI KTC (เป้าหมายพื้นฐานใหม่ 165.00 บาท กำไรไตรมาส 2/59 ดี, ต้นทุนการเงินต่ำ, การแข่งขันในตลาดบัตรเครดิตจากธนาคารขนาดใหญ่ไม่สูง มอง กำไรเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ 19% ต่อปี) PLANB (กำไรไตรมาส 3-4/59ทำ Recorded High)

3) ผลดีราคาน้ำมันลง : “เก็งกำไร” AAV และ Laggard โรงกลั่น+ปิโตรฯ อย่าง IRPC (UHV หนุนกำไรครึ่งปีหลังของปี 59 ค่าการกลั่นฟื้น US$5/bbl)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (1 ก.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ดัชนียังคงถูกกดดันจากประเด็นโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐใน ก.ย. นี้ ขณะที่ ธปท.ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทย ก.ค. ที่ชะลอตัวลง ยังคงแนะนำรอ Follow Trend โดยวางกรอบแนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,560 จุด  ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร AGE, FOCUS (+ สัญญาณบวกทางเทคนิค)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (1 ก.ย.)คาด SET ยังผันผวนในกรอบแคบ เพราะจะถูกหน่วงจากหุ้นที่ได้รับผลลบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า อาทิ หุ้นกลุ่มน้ำมัน กลุ่มบริษัทที่มีหนี้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ กลุ่มนำเข้า อย่างไรก็ตามจะได้หนุนจากหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าด้วย อาทิ หุ้นกลุ่มส่งออก กลุ่มปิโตรเคมีปลายน้ำ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มขนส่งและสายการบิน กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องตราบใดที่เฟดยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าน่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวก่อนการประชุมเฟด 21 ก.ย. นี้ ซึ่งคาดว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย และจะเป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ยังเน้นการลงทุนในหุ้นที่อิงการบริโภคมากที่สุด เพราะเชื่อว่าการบริโภคจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ต้องติดตามตัวเลข PMI จีนเดือน ซึ่งตลาดคาดไว้ที่ 50%

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : สายการบิน และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (ระยะยาวดีและระยะสั้นเก็งกำไรเล่นรอบสบาย)

Back to top button