SET บ่ายลุ้นยืนเทรดเหนือ 1,500 จุดแข็งแกร่ง โบรกฯมองเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี

SET บ่ายลุ้นยืนเทรดเหนือ 1,500 จุดแข็งแกร่ง พร้อมให้แนวรับ 1,480-1,500 แนวต้าน 1,505-1,530 จุด โบรกฯแนะ ลงทุนจำกัดพอร์ต มองดัชนีปรับตัวลงมาอยู่ในแนวรับ 1,480 จุด เป็นจุดเข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (5 ก.ย.) ร่วงแรงเกิดจากการตี่นตระหนก (Panic Sell) กระแสข่าวลือในประเทศ ทำให้ตลาดบ้านเราอ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาค หลังคลายกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเมื่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาแย่กว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็มี Valuation ตึงมากทำให้พร้อมขายทุกเมื่อ บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งในแดนลบ แต่ก็น่าจะเทรดเหนือ 1,500 จุด เล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,480-1,500 แนวต้าน 1,505-1,530 จุด

 

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดเทรดได้ไม่นานก็ปรับตัวลงรุนแรงกว่า 40 จุด เป็นการขายในลักษณะตี่นตระหนก (Panic Sell) อันเนื่องมาจากกระแสข่าวลือในประเทศเรื่องเดิม แต่ไม่นานดัชนีฯก็รีบาวด์กลับขึ้นมาได้บ้างแม้ว่าจะยังอยู่ในแดนลบก็ตาม ส่งผลให้ตลาดบ้านเราอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกถ้วนหน้าหลังคลายความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเมื่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาไม่ดีนัก

อย่างไรก็ดี ดัชนีฯแถวระดับ 1,480 จุด คิดว่าน่าจะมีคนเข้ามาซื้อมาก เนื่องจากมองว่าเงินที่เกิดจากการไถ่ถอน LTF นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันกว่า 20,000 ล้านบาท น่าจะวนกลับมาซื้อ และที่ผ่านมารายย่อยขายออกไปมากเกือบแสนล้านบาท รวมถึงกองทุนได้ขายมาต่อเนื่องตลอด 2 เดือน ดังนั้นหุ้นจึงน่าจะถูกย้ายไปอยู่ในพอร์ตของต่าชาติมากขึ้น การขายหุ้นของนักลงทุนในประเทศมองว่าเป็นการปรับพอร์ต เมื่อตลาดฯปรับตัวลงมาเทรด P/E ที่ต่ำกว่าระดับ 15 เท่า ก็มีโอกาสที่จะเห็นการกลับมาซื้อ

 

ด้านนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงแรงสวนทางกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ตอบรับปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนคลายความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงถัดไป

ทั้งนี้ การปรับตัวลงของดัชนีฯส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเรื่องของ Valuation ที่ค่อนข้างตึงมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดมีความพร้อมที่จะปรับฐานได้ตลอดเวลาเพื่อลดความร้อนแรง 

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ เมื่อหุ้นได้มีการเปลี่ยนมือไปแล้ว เชื่อว่าคนซื้อในวันนี้น่าจะยังถือหุ้นต่อไป แม้ว่าบ่ายนี้ดัชนีฯจะยังอยู่ในแดนลบแต่ก็คงจะไม่มากกว่าช่วงเช้า และมีโอกาสที่ดัชนีฯจะปิดตลาดในระดับ 1,500 จุด เศษ ๆ ดังนั้นบ่ายนี้ตลาดฯ จึงมีโอกาสขึ้นมาเทรดเหนือระดับ 1,500 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,530 จุด

“ดัชนีฯน่าจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,480-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,530 จุด โดยมองว่าการที่ดัชนีปรับตัวลงมาอยู่ในแนวรับดังกล่าวน่าจะเป็นจุดเข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี” นายณัฐชาต กล่าว

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (5 ก.ย.) ว่า SET ภาคเช้า Rebound เป็นไปอย่างจำกัดในช่วงเปิดตลาด และต่อด้วยความ “ผันผวน” ตามมา ทั้งนี้แม้ SET จะปรับลดลงเข้าใกล้เป้าหมายการ “พักฐาน” ใหญ่บริเวณ 1,470 +/- จุด ในช่วงเช้าที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีด้วยความ “ผันผวน” ที่เพิ่มขึ้น และโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้-ต้นปีหน้า จะเป็นปัจจัยกดดัน Earnings Yield Gap ปรับลดลงจากปัจจุบันที่ 3.8% ต่อไปอีก (อิงค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมา 4.0% – ทั้งนี้ Earnings Yield Gap ยิ่งสูงยิ่งแสดงให้เห็นว่าการลงทุนในหุ้นมีความน่าสนใจ ขณะที่ถ้า Earnings Yield Gap แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นที่ลดลง) และเป็นปัจจัยกดดัน SET ต่อเนื่อง ทำให้เรายังเน้น “จำกัด” พอร์ตต่อไป

ในขณะเดียวกัน แม้ SET ปรับเข้าใกล้แนวรับที่ 1,470 +/- จุด (มี Gap ที่ 1,460 จุด) แต่ยังไม่มีสัญญาณ “กลับตัว” ทางเทคนิคให้เห็น ขณะที่พิจารณาจาก Trade Code ที่เป็นเครื่องมือ Quantitative จะเห็นว่าหุ้นที่มี Scoring เบอร์ 4-6 (Momentum บวก) ลดลงเหลือเพียง 20-25% ของ Market Cap ตลาดเท่านั้น ขณะที่หุ้นที่มี Scoring เบอร์ 1-3 (Momentum ลบ หรือมีสัญญาณพักฐาน) เพิ่มขึ้นเป็น 75-80% ของ Market Cap ตลาด บ่งชี้ถึงความเสี่ยงระยะสั้นต่อเนื่อง

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

THAI  มูลค่าการซื้อขาย 2,635.29 ล้านบาท ปิดที่  27.75 บาท ลดลง 1.75 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,958.24 ล้านบาท ปิดที่  61.00 บาท ลดลง 0.75 บาท          

PTT   มูลค่าการซื้อขาย 1,909.42 ล้านบาท ปิดที่ 331.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,351.67 ล้านบาท ปิดที่ 189.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

SCC   มูลค่าการซื้อขาย 1,258.48 ล้านบาท ปิดที่ 538.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

               

 

Back to top button