ส่อง 4 หุ้นร้อน เน้นเก็งกำไร SET ยังไม่พ้นช่วงปรับฐาน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังไม่พ้นช่วงปรับฐาน อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันยังมีโอกาสรีบาวด์ ซึ่งมองว่าเป็นเพียงจังหวะเก็งกำไรระยะสั้นหรือโอกาสในการปรับพอร์ตลงทุนเท่านั้น กรณีที่ดัชนีปรับตัวลงเป็นโอกาสในการทยอยเข้าเก็บหุ้นพื้นฐานดี การลงทุนแนะนำแค่เก็งกำไรระยะสั้น และสะสมหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.66 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ครั้งล่าสุด โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค.

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังไม่พ้นช่วงปรับฐาน อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันยังมีโอกาสรีบาวด์ ซึ่งมองว่าเป็นเพียงจังหวะเก็งกำไรระยะสั้นหรือโอกาสในการปรับพอร์ตลงทุนเท่านั้น กรณีที่ดัชนีปรับตัวลงเป็นโอกาสในการทยอยเข้าเก็บหุ้นพื้นฐานดี การลงทุนแนะนำแค่เก็งกำไรระยะสั้น และสะสมหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดี หุ้นเด่นเลือก BJC-GFPT-TFG และ CPF

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ย.) ว่า Trade Code แสดงให้เห็นถึงสัญญาณพักฐานของหุ้นหลายๆ ตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ SET ซึ่งปรับลดลงมาที่ “ลดพอร์ต” เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ทำให้ฝ่ายวิจัยยังกังวลต่อการ “พักฐาน” ของ SET ต่อไป ด้วยแนวรับ 1,470 จุด ขณะที่การประชุม ECB คืนนี้ แม้มีโอกาสใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการ Rebound ของ SET แต่จะเป็นเพียงโอกาสในการ “Trading” หรือ “ปรับพอร์ต” เท่านั้น

แนะนำกลยุทธ์หลักยังเน้นไปที่การ “จำกัด” พอร์ตต่อไป โดยมองการ Rebound ระยะสั้นเป็นเพียงจังหวะการ “Trading” ระยะสั้น หรือการ “ปรับพอร์ต” เท่านั้น และยังไม่เห็นการกลับตัวของ SET เร็วๆ นี้…

สำหรับหุ้น Trading ระยะสั้น แนะนำ “เก็งกำไร” BJC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 55 บาท จาก 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 3-4/59 มีแนวโน้มเติบโตแกร่ง หลังรวม BIGC เข้ามาเต็มไตรมาส 2) เงินเพิ่มทุนที่เข้ามาในไตรมาส 3/59 มูลค่า 8 หมื่นล้าน จะลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และ Debt to Equity 3) ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงจากการออก Bond และ Refinance เงินกู้ดอกเบี้ย 3-3.25% และ 4) ด้วย CAGR 49% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า PE17 ที่ 24.3 เท่า ยังไม่สูง

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ย.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้น่าจะยังผันผวนและอยู่ในช่วงปรับฐานต่อเนื่อง ตามทิศทางตลาดหุ้นในกลุ่ม TIPs อย่าง ฟิลิปปินส์และอินโดนีเชีย และอาจมีรีบาวด์ในเชิงเทคนิคหลังปรับลงแรงวานนี้

อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่า Fund Flow ต่างชาติจะยังไหลเข้าต่อเนื่องหลังรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและต่ำกว่าเฟดประเมินไว้ก่อนหน้านี้มาก ดังนั้นตลาดจึงคาดเฟดไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้นดอกเบี้ย เชื่อว่านักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นว่า SET จะปรับขึ้นต่อเพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังการลงทุนเพิ่มมากขึ้นเพราะยังมีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ

แต่หาก SET ปรับลงแรงและเร็วเกินไปจะเป็นโอกาสเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น วันนี้หุ้นพลังงานน่าจะพยุงตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้เช้านี้ต้องติดตามรายงานตัวเลขส่งออกนำเข้าเดือนส.ค.ของจีน ซึ่งตลาดคาดจะติดลบ –4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ดีขึ้นจากติดลบ -4.4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนในเดือนก.ค. และผลการประชุม ECB คืนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Buy on dip

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : GFPT, TFG และ CPF (ได้ผลบวกจากราคาไก่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ยังคงต้องสังเกตุแนวรับที่บริเวณ 1,477 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน) ว่า จะดัชนีจะยืนได้หรือไม่ กรณียืนไม่ได้ยังมีโอกาสปรับฐานลงสู่แนวรับ 1,450-1,460 จุด โดยตลาดมีแนวต้านอยู่ที่ 1,500 – 1,510 จุด แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว

Back to top button