ส่อง 5 หุ้นเด็ด SET เสี่ยงปรับลง ระวังแรงขายทำกำไร

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับจัวขึ้นแรงเป็นเพียง Technical Rebound ขณะที่วันนี้มีโอกาสลดลงจากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีแรงหนุนจากการซื้อของต่างชาติ การลงทุน


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.94 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับจัวขึ้นแรงเป็นเพียง Technical Rebound ขณะที่วันนี้มีโอกาสลดลงจากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีแรงหนุนจากการซื้อของต่างชาติ การลงทุน หุ้นเด่นเลือก ILINK-SCC-KBANK-BDMS และ BEM

 

 

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ในช่วงสั้น แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรสลับออกมาหลังจากวานนี้ปรับขึ้นไปแรง โดยมองว่าแรงซื้อของกองทุนและนักลงทุนต่างชาติยังน่าจะเป็นแรงหนุนโมเมนตัมต่อเนื่องมาถึงวันนี้ด้วย

นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับพอร์ตของต่างชาติตามการให้น้ำหนักการลงทุนใน FTSE ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามา 620 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.จนถึงปัจจุบันมีแรงซื้อเข้ามา 12,000 ล้านบาท คงเหลืออีกประมาณ 9,000 ล้านบาทที่จะต้องปรับพอร์ตให้ทัน Dateline ในวันศุกร์นี้

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไร้ทิศทาง โดยยังมีความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แม้คาดว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่ก็ยังอาจปรับขึ้นในเดือน ธ.ค.ทำให้ตลาดฯมองความเสี่ยงจากประเด็นนี้ ซึ่งจะต้องติดตามความชัดเจนจากการประชุมเฟดวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แม้เชื่อว่าคงไม่มีมาตรการใด ๆ ออกมา

อนึ่ง ในวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดฯคาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%

อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวลงด้วยจากคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้ายังคงชะลอตัว แต่เช้านี้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สรีบาวด์ขึ้นมาบ้างแล้ว ทำให้ปัจจัยดังกล่าวยังไม่แน่นอน

พร้อมให้แนวรับ 1,438 จุด ส่วนแนวต้าน 1,451-1,460 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ย.) มองการฟื้นตัวของ SET วานนี้เป็น Technical Rebound หลังปรับลดลงแรงก่อนหน้านี้ และการ “เก็งกำไร” การ Rebalance ของ FTSE ในช่วงปลายสัปดาห์ โดยคาดว่าจะมี Upside จำกัดที่ 1,450-1,460 จุด ขณะที่ 1) แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย Fed ปลายปีนี้-ต้นปีหน้า ทำให้กระแสเงินทุนมีความ “ผันผวน” มากขึ้น 2) PE ปัจจุบันที่ 15.9 เท่า ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2009-2016 ที่ 13.2เท่า มาก 3) ขณะที่ Trade Code ที่เป็นเครื่องมือในการจับแนวโน้มตลาด จะเห็นว่ามีหุ้นเพียง 10% เท่านั้นที่มี Momentum เป็นบวก และ SET ยังอยู่ในสถานะ “ลดพอร์ต” ต่อไป

มีจังหวะ Trading ตาม Technical Rebound แต่ควร “จำกัด” วงเงินในการลงทุนช่วงนี้…แนะนำ “ซื้อ” ILINK เป้าหมายพื้นฐาน 28.0 บาท จาก 1) ล่าสุดชนะประมูลโครงสร้างสายส่ง 115HV มูลค่า 309.6 ล้านบาท เป็น Upside ต่อประมาณการกำไร 5-10% ในปี 2017-18 2) การ Bidding โครงการสถานีไฟฟ้าย่อย และ Fiber Optic มูลค่ากว่า 600 ล้านบาทวันนี้ หนุน Sentiment บวก 3) กำไรเติบโตสูง 40-30% ในปี 2017-18 และ 4) Trade Code แนะนำ “ซื้อ” วันนี้เป้าหมายระยะสั้น 23.20 บาท

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ย.) SET Index มีโอกาสลดลงจากแรง Take Profit หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นแรงกว่า 35 จุดและยังไม่ผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ระดับ 1,450 จุด คาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะเป็นตัวฉุดตลาดตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงแรงกว่า 3% หลังจากที่ IEA ออกมาลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้ลง 100,000 บาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตามเราคาดว่าการลดลงของดัชนีจะไม่รุนแรงเนื่องจากตลาดยังมีแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังไหลเข้าเนื่องจากโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.มีความเป็นไปได้น้อยลง และเราเชื่อว่าการทำ FTSE Rebalance ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย. 16 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ Fund Flow ยังคงไหลเข้าและพยุงตลาดไม่ให้ลดลงแรง ส่วนการประชุม กนง.ในวันนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบกับตลาดเนื่องจากคาดว่าที่ประชุมจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% ตามเดิม 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Take Profits

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น :  ยังเน้นกลุ่ม FTSE Rebalancing (SCC, KBANK, BDMS และ BEM) 

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ย.) ยังประเมินตลาดน่าจะอยู่ในช่วงการฟื้นตัวระยะแรกซึ่งความมั่นใจนักลงทุนยังค่อนข้างน้อย โดยเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากเปิดกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในสัปดาห์นี้ ฝ่ายวิจัยประเมิน Filter แนวรับที่ 1,430-1,440 จุด หากยืนได้คาดตลาดยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัว โดยวางแนวต้านที่ระดับ 1,460-1,480 จุด แนะนำทยอยซื้อหุ้น Big Cap.

Back to top button