SET ผันผวน ชู 6 หุ้นเด็ดเทคนิคสวย-มีปัจจัยหนุน
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังผันผวนในกรอบจำกัด ส่วนการ Rebalance ของ FTSE คาดว่าจะทำให้ดัชนีผันผวนเพิ่มขึ้นในช่วงปลายตลาด อย่างไรก็ตามในทางเทคนิคยังมีโอกาสรีบาวด์ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของเฟดในสัปดาห์หน้า การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.80 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการในวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังผันผวนในกรอบจำกัด ส่วนการ Rebalance ของ FTSE คาดว่าจะทำให้ดัชนีผันผวนเพิ่มขึ้นในช่วงปลายตลาด อย่างไรก็ตามในทางเทคนิคยังมีโอกาสรีบาวด์ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของเฟดในสัปดาห์หน้า การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หุ้นเด่นเลือก BR-CHG-TISCO-GFPT-KTC และ EPG
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) การฟื้นตัวของตลาดหุ้น Dow Jones +1% หลังตัวเลขค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอเพิ่มความมั่นใจว่าการประชุม FOMC วันที่ 21 ก.ย.นี้จะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ถ้าพิจารณาจาก Implied Fed Fund Futures ล่าสุดโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.ลดลงเหลือ 49.7% จะเป็นปัจจัยหนุน SET ปรับสูงขึ้นวันนี้ และในทางเทคนิคอิง Technical Story มองมีจังหวะ Rebound 1,475-1,486 จุด ขณะที่การ “Rebalance” ของ FTSE คาดว่าจะทำให้ SET “ผันผวน” เพิ่มขึ้นในช่วงปลายตลาด
ภาพระยะสัปดาห์ยังมองมีโอกาส “พักฐาน” ต่อเนื่องไม่เปลี่ยนแปลง แต่ภาพระยะสั้นอิงรายงาน Trade Code จะเห็นว่ามีหุ้นหลายๆ ตัวมี Momentum แข็งแกร่งขึ้นและเลื่อนขึ้นมาที่ “เริ่มสะสม” และ “ซื้อเพิ่ม” ทำให้มีจังหวะ “เก็งกำไร” หุ้นรายตัว โดยควรตั้ง Trailing Stop ที่ 1,456 จุด อย่าง CHG (แนวต้าน 2.66/2.70) TISCO (แนวต้าน 53.25/54.50) GFPT (แนวต้าน 15.50) KTC (แนวต้าน 134.50) EPG (แนวต้าน 14.40 บาท)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) คาด SET Index จะยังผันผวนในกรอบจำกัด และจะมีรูปแบบการเคลื่อนไหวคล้ายกับเมื่อวานที่ผ่านมา โดยจะเห็นดัชนีปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าจาก Sentiment เชิงบวกของหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากคาดหวังว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าหลังจากที่สหรัฐฯรายงานตัวเลขค้าปลีกเดือน ส.ค. ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของดัชนีจะเป็นไปอย่างผันผวน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายซึ่งคาดว่าจะมีแรงกดดันจากการขายทำกำไรของนักลงทุนที่เข้ามาซื้อดักกลุ่มหุ้นที่ถูกปรับเข้าคำนวณในดัชนี FTSE รอบใหม่ซึ่งจะมีผล ณ เย็นวันนี้ และคาดว่าจะมีนักลงทุนบางส่วนขายปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ รวมถึงชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของเฟดในสัปดาห์หน้า หุ้นในกลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันดิบเริ่มหยุดลงอาจจะเห็นแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ราคายัง Laggard เมื่อเทียบกับตลาดรวมมากที่สุด
ขณะที่หุ้นกลุ่มอาหารเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจเนื่องจากได้ประโยชน์จากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับขึ้น อาทิ หมู, ไก่ และกุ้ง ขณะที่ราคาวัตถุดิบปรับตัวลง หุ้นในกลุ่มก่อสร้างได้ Sentiment บวกจากภาครัฐจะผลักดันให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BR (เป้า 9.00 บาท) ได้ประโยชน์มากสุดจากราคาเป็ดในยุโรปพุ่งทำ New high ในรอบ 1 ปี
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) วานนี้ต่างชาติมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3.5 พันสัญญา คาดเป็นการ Roll Over สู่สัญญาเดือน ธ.ค. ภาวะตลาดคาดยังทรงตัวรอผลการประชุม BOJ และ FOMC กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้นแนะนำขายกำไรบางส่วน หากดัชนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับแนวต้าน 1,470 – 1,480 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,450 จุด