ส่อง 8 หุ้นร้อน SET ผันผวนต่อ จับตาผลดีเบตสหรัฐฯ

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.60 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายและจับตาดูการโต้วาทีครั้งแรกระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่อาจชี้ชะตาผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังมีความผันผวนขณะที่นักลงทุนรอติดตามการดีเบตของผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลต่อภาพรวมการลงทุนของตลาดโลก อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสฟื้นตัวได้เล็กน้อยตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ การลงทุนยังเน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 เติบโตดี และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หุ้นเด่นเลือก BEAUTY-BJC-KTC-THANI-INTUCH-KTC-TPCH และ BANPU

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ย.) ว่า แม้การปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบ Brent (+3.2%) เมื่อคืนนี้ก่อนผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 28 ก.ย.นี้จะเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงาน แต่การปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones (-0.91%) เมื่อคืนที่ผ่านมาก่อนการ Debate ระหว่างฮิลลารี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ เช้านี้คาดว่าจะทำให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่ยังประเมินแนวรับสำคัญ (ดูราคาปิด) ที่ 1,486 จุดเหมือนเดิม ทั้งนี้จากสถิติการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 7 ครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ 1988-2012 จะเห็นว่ามีโอกาสเกิด Pre-election rally ช่วง 1-3 เดือนก่อนการเลือกตั้งต่ำกว่า 50%

ทั้งนี้ยังมองการปรับสูงขึ้นของ SET ตั้งแต่ 13 ก.ย.เป็นเพียงการ Rebound เท่านั้น จึงแนะนำแค่ “Trading” ต่อไป โดยกำหนด Trailing Stop ที่ 1,486 จุด  แนะนำ “ซื้อ” 1) การบริโภคเร่งตัว, กำไรไตรมาส 3/59 เด่น อย่าง BEAUTY BJC 2) ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำยาว ปันผลสูง : KTC THANI INTUCH (ปันผล 8.5% – ล่าสุด Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลดลงต่ำกว่า 1.6%) 3) หุ้นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น อย่าง TPCH โดยคาดการณ์กำไรปี 2016-17 จะเติบโตเด่น 275-94.7% เป้าหมายพื้นฐาน 21 บาท

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ย.) คาด SET วันอังคารแกว่งตัวแคบๆ และคงมองดาวน์ไซด์จำกัด แนะเข้าเก็งกำไร (วานนี้ดัชนีฯ แกว่งลง แย่กว่าคาดเล็กน้อย) เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นประเทศหลักๆ ปรับลงค่อนข้างแรง หลังนักลงทุนรอติดตามการดีเบตของผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกจากนี้ราคาหุ้นธนาคารทั่วโลกลงแรง หลังหุ้นดอยช์แบงก์ร่วง 7% ตามข่าวรัฐบาลเยอรมันไม่มีแผนช่วยเหลือธนาคาร กรณีคดีค่าปรับ 1.4 หมื่นล้านเหรียญฯ กับสหรัฐฯ

ฝ่ายวิจัยไม่กังวลเรื่องนี้นัก เพราะฐานทุนของดอยช์แบงก์ยังสูงที่ 7 หมื่นล้านเหรียญฯ และหุ้นธนาคารไทยมีความเชื่อมโยงน้อยกับแบงก์ในยุโรป ด้านราคาน้ำมันรีบาวด์และจะยังผันผวนก่อนการประชุมโอเปกที่แอลจีเรียวันพรุ่งนี้ เราคงมอง SET มีทางลงจำกัด เนื่องจากแรงซื้อจากฝั่งสถาบันในประเทศ เพื่อปิดงวดบัญชีไตรมาส 3/59 น่าจะมีพอควรหลังสถาบันขายสุทธิค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน TPCH (เป้าพื้นฐาน 22.00 บาท) และ KTC (เป้าพื้นฐาน 160.00 บาท)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ย.) คาด SET มีโอกาสฟื้นตัว โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) ราคาน้ำมันดิบกลับมาเพิ่มขึ้นแม้จะยังมีความไม่แน่นอนจนกว่าจะทราบผลประชุมจริงในวันที่ 28 ก.ย. แต่ราคาที่กลับมาบวกน่าจะส่งผลดีต่อ Sentiment การลงทุนในกลุ่มพลังงานวันนี้ 2) มีความคาดหวังเชิงบวกต่อผลการดีเบตระหว่าง นางฮิลลารี คลินตัน และ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาบ้านเรา โดยคาดว่าผลคะแนนของนางฮิลลารี คลินตัน จะยังชนะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อทิศทางการลงทุนต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในวันนี้ (ติดตามการเคลื่อนไหวของดาวโจนส์ฟิวเจอร์)

อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาเป็นตรงกันข้ามจะทำให้ดัชนีเกิดความผันผวนและมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ ส่วนภาพรวมกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆเรายังเน้นให้เข้าซื้อในกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/59 จะออกมาดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอาทิ กลุ่ม อาหาร, โรงพาบาล และ กลุ่มถ่านหิน (BANPU, LANNA, UMS, AGE, EARTH) ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นทำ New high ในรอบกว่า 2 ปี และหุ้นรายตัวที่แนวโน้มผลประกอบการดี อาทิ BEAUTY, TACC, TKN, JMT, TWPC และ SMPC รวมถึงTPIPL (ได้สิทธิ์ Pre-emtive ซื้อหุ้น IPO ของหุ้น TPIPP)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นที่แนวโน้มไตรมาส 3/59 เติบโตดี /และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BANPU (เป้า 20) ถ่านหินเพิ่มขึ้น New High ในรอบ 2 ปี ,TWPC (เป้า 10 บาท) อานิสงส์ยอดส่งออกมันสำปะหลังเพิ่ม