เปิดสถิติผลตอบแทน Window Dressingจัดเต็ม 9 หุ้นตัวเต็ง! เป้าหมายกองทุน
เปิดสถิติผลตอบแทน Window Dressing จัดเต็ม 9 หุ้นตัวเต็ง! เป้าหมายกองทุน
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลดัชนีย้อนหลังของวันปิดสิ้นงวดในช่วงไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 นับตั้งแต่ปี 55-59 ในระยะเวลาก่อนปิดงวดไตรมาส 1 วัน ,7 วัน และ 15 วันซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีการทำ Window Dressing เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้นักลงทุนได้เห็นภาพชัดเจนได้ขึ้นว่าปรากฏการณ์นี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน
ตารางแสดงการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ช่วงที่คาดการณ์ว่าจะเกิด Window Dressing
ทั้งนี้ จะเห็นว่าการเข้าลงทุนในช่วง 7 วัน และ 15 วันก่อนเกิด Window Dressing จะให้ผลตอบแทนดีกว่าช่วง 1 วันก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เป็นที่น่าจับตาว่าปีนี้กองทุนจะเข้ามาดันราคาหุ้นในช่วง 1 วันก่อนสิ้นไตรมาส 3 และจะส่งผลให้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นหรือไม่ หลังจากที่ในระยะสัปดาห์ดัชนีปรับตัวลงแรง ขณะที่นักวิเคราะห์หลายบริษัทหลักทรัพย์ต่างคาดการณ์เป็นเสียงเดียวกันว่าระยะสัปดาห์นี้มีปรากฏการณ์ดังกล่าวแต่อาจจะไม่มากนัก
โดยนักวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่าประเด็น Window dressing เป็นไปได้ว่าจะมี แต่ในระยะหลังอิทธิพลจาก Window dressing จะลดน้อยลง หากวิเคราะห์พฤติกรรมนักลงทุนสถาบันในประเทศในระยะหลังแล้วพบว่าจะขายออกเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น Window dressing อาจเกิดหรือไม่เกินขึ้นก็เป็นได้ ซึ่งขอแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวัง เพราะกองทุนในประเทศมีการขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องติดตามว่าในสัปดาห์นี้จะขายต่อหรือไม่ โดยมองว่า SET Index จะผันผวนเป็น Sideway มองกรอบที่ 1,472-1,510 จุด
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่าช่วงวันที่ 26-30 ก.ย.59 อาจมีการทำราคาปิดสิ้นงวด (Window Dressing) สำหรับหุ้นเข้าข่าย Window Dressing และมีพฤติกรรมในอดีต เด่น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่าหุ้นที่คาดว่ามีโอกาสจะถูกทำ Window Dressing สูงจะเป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันถือหุ้นเยอะ อีกทั้งมีสภาพคล่องการซื้อขายไม่มาก อาทิหุ้น Big cap เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC
อีกทั้งหุ้น Medium-Small cap ได้แก่ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG, บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH, บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI, บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR, บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC และบริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH
*อนึ่ง Windows dressing คือการดันราคาหุ้นปิดให้สูงขึ้น เพื่อทำให้ราคาหุ้นในพอร์ทมีมูลค่าสูงขึ้น และเมื่อมีการปิดไตรมาสจะนำตัวเลขมูลค่าที่เพิ่มขึ้นนั้นมาบุ๊คบัญชี ส่งผลต่อเงินลงทุนมีมูลค่าสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม Windows dressing นั้น จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ แต่ส่วนใหญ่แล้วหากดัชนีมีการปรับตัวขึ้นสูงมากแล้วมักจะไม่เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น