SET บ่ายลุ้นฟื้นตัว เกาะติดหารือ OPECแนะ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มโรงกลั่น Outperform

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (28 ก.ย.) นิ่ง-สร้างฐาน โดยยังได้แรงหนุนจากตัวเลขส่งออกของไทยที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้กำไรของบริษัทงวดไตรมาส 3/59 คาดว่าจะเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งก็ทำให้นักวิเคราะห์ฯต่างอัพเป้าประมาณการกัน แม้ตลาดฯจะมี valuation ที่ไม่ถูก แต่ก็ยังมี Flow ที่มาจากการ upgrade นอกจากนี้โครงการภาครัฐฯก็ยังเดินหน้าต่อไป จึงเชื่อตลาดฯมีโอกาสที่จะค่อยๆ ดีขึ้นหลังสร้างฐานและยืนได้ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ บ่ายนี้ตลาดฯยังมีลุ้นฟื้นตัวได้ แต่ก็ไม่ถึงกับสวิงมาก เพราะยังต้องติดตามการพูดคุยของกลุ่ม OPEC ซึ่งมีผลต่อทิศทางราคาน้ำมันที่อาจสวิงได้ในระยะสั้น พร้อมให้แนวรับ 1,485 แนวต้าน 1,495 จุด

 

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง มองว่าเป็นช่วงตลาดสร้างฐาน ในแง่ของ Key support ตัวเลขส่งออกของไทยออกมาดีกว่าคาดน่าจะทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/59 เติบโตดีได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยเฉพาะกลุ่ม Commodity, กลุ่มสถาบันการเงิน, กลุ่มอาหาร และกลุ่มค้าปลีก ทำให้นักวิเคราะห์ฯ upgrade ประมาณการทั้งปี จึงเชื่อว่าจะดึง Fund Flow เข้ามาได้ แม้ตลาดฯจะมี valuation ไม่ถูกแล้ว

นอกจากนี้ โครงการของภาครัฐฯก็ยังคงเดินหน้าต่อไป ดังนั้น แม้ว่าตลาดฯจะกำลังสร้างฐานแต่ก็เป็นการสร้างฐานเพื่อให้ยืนได้ และเชื่อว่ามีโอกาสที่จะค่อย ๆ ดีขึ้น

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ โดยตลาดเอเชียเหนือ อย่าง ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ได้ปรับตัวลงมากสุด คงเป็นผลจากเงินเยนแข็งค่า อาจกระทบต่อการส่งออก ส่วนผลดีเบตเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐผ่านไปแล้ว และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มองว่าน่าจะไปปรับในเดือน ธ.ค.59

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯ ยังมีลุ้นเห็นการฟื้นตัว แต่ก็ไม่ถึงกับแกว่งขึ้นไปมาก เพราะตลาดฯ ยังต้องรอติดตามการหรือของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC อาจมีผลต่อทิศทางราคาน้ำมันให้เหวี่ยงตัวในระยะสั้น พร้อมให้แนวรับ 1,485 จุด ส่วแนวต้าน 1,495 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (28 ก.ย.) ว่าSET ภาคเช้าเคลื่อนไหวแคบตั้งแต่เปิดตลาด ด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง โดยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่ได้รับผลดีจากค่าการกลั่นที่ปรับสูงขึ้นมาที่ US$7/barrel และการเข้าสู่ช่วง High Season ของค่าการกลั่นช่วงปลายปี มีแนวโน้ม Outperform ตลาด ไม่ว่าจะเป็น TOP IRPC SPRC และ ESSO ขณะที่การทำ Window Dressing จะเป็นปัจจัยหนุน SET ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,486-1,520 จุด

ในขณะเดียวกัน กลุ่มโรงกลั่น ดู Outperform ตลาด แนะ “ซื้อ” IRPC และ ESSO การปรบสูงขึ้นของค่าการกลั่น (Refining Margin) จากระดับ US$3/bbl ในเดือน ส.ค.มาที่ระดับ US$7/bbl ในปัจจุบัน และคาดว่าค่าการกลั่นจะทรงตัวในระดับสูงไปจนถึงปลายปีนี้ หรือช่วงฤดูหนาวที่มีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น

โดยแนะนำ “ซื้อ” IRPC (เป้าหมายพื้นฐาน 6.80 บาท – แนวต้านระยะสั้น 5.05) ที่ราคาหุ้นได้รับผลดีจากค่าการกลั่น และส่วนต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ปิโตรฯกับวัตถุดิบที่สูง รวมไปถึงการ Upgrade โรงกลั่นที่เข้ามาตั้งแต่เดือน ก.ค.หนุนอัตรากำไรในไตรมาส 3/59 ปัจจุบันให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.4-6.8% และ “ซื้อ” ESSO (เป้าหมายพื้นฐาน 7.70 บาท – แนวต้านระยะสั้น 5.90/6.10) แม้ผลการดำเนินงานไม่มีการเติบโตมากนัก แต่ราคาหุ้นต่ำกว่า Replacement Value สูงกว่า 60% และเป็นหุ้นที่ถูก Consensus ปรับประมาณการกำไรขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

BCPG มูลค่าการซื้อขาย 4,225.43 ล้านบาท ปิดที่  11.10 บาท เพิ่มขึ้น  1.10 บาท  

SCB มูลค่าการซื้อขาย   669.04 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง   0.50 บาท   

CPALL มูลค่าการซื้อขาย   472.00 ล้านบาท ปิดที่  61.25 บาท ลดลง   0.25 บาท  

PTT มูลค่าการซื้อขาย   421.19 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท ลดลง   1.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย   399.32 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท ลดลง   1.50 บาท