SET ขึ้นตามตปท. รับผลบวกประชุมโอเปกจับตา 15 บจ.ร้อน เป้า Window Dressing
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศรับผลบวกจากการที่โอเปกตกลงลดกำลังการผลิต ขณะที่การลงทุนยังแนะนำกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 เติบโตดี รวมถึงเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และกลุ่มที่เป็นเป้าหมายการทำ Window Dressing ปลายสัปดาห์นี้
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.59 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดทะยานขึ้นถ้วนหน้า หลังที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) มีมติปรับลดการผลิตน้ำมันลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการซื้อจัดขึ้นที่ประเทศแอลจีเรียวานนี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศรับผลบวกจากการที่โอเปกตกลงลดกำลังการผลิต ขณะที่การลงทุนยังแนะนำกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 เติบโตดี รวมถึงเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และกลุ่มที่เป็นเป้าหมายการทำ Window Dressing ปลายสัปดาห์นี้
หุ้นเด่นเลือก BANPU-PTT-PTTEP-TOP-BJC-CPALL-GOLD-GUNKUL-IRPC-KCE-MAJOR-MINT-TOP-TU และ UNIQ
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.)ว่า การประชุม OPEC ลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเหลือ 32.5-33.0 บาร์เรล/วัน หนุนราคาน้ำมันดิบ Brent +5.9% เมื่อคืนนี้ และ Dow Jones +0.61% คาดว่าจะเป็นปัจจัย “บวก” ต่อกลุ่มพลังงาน และ SET วันนี้ ลุ้นกลับมายืนได้เหนือ 1,490 จุด ขณะที่ภาพ SET 1-3 เดือนข้างหน้ายังระวัง “พักฐาน” ต่อ
กลยุทธ์หลักแนะนำแค่ “Trading” ต่อไป แม้ SET มีลุ้นกลับมายืนเหนือ 1,486 จุด วันนี้ ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มโรงกลั่นฯ ล่าสุด GRM ขึ้นมาที่ US$7.6/bbl และคาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงในช่วง High Season ปลายปี อย่าง ESSO (ต้าน 6.20) ที่ราคาหุ้นต่ำกว่า Replacement Value มากกว่า และ IRPC (ต้าน 5.30) ได้รับผลดีจากค่าการกลั่นสูงขึ้น, การ Upgrade โรงกลั่นเพิ่ม Margin ตั้งแต่ ก.ค.ที่ผ่านมา, ส่วนต่างระหว่างราคาปิโตรฯ และวัตถุดิบสูง, PE ปัจจุบัน 7.4 เท่า และปันผล 5.4-6.8% ในปี 2016-17 มี Downside Risk จำกั
รวมถึง “เก็งกำไร” กลุ่มหุ้นที่เป็นเป้าหมายการทำ Window Dressing ปลายสัปดาห์นี้ อย่าง BJC CPALL GOLD GUNKUL IRPC KCE MAJOR MINT TOP TU และ UNIQ
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) คาดตลาดวันนี้จะได้รับแรงหนุนจากโอเปกตกลงลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 32.5-33 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องอย่างช้าๆ โดยในไตรมาส 4 นี้ คาดได้แรงกระตุ้นจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของเกษตรกร
กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนีน่าสามารถยืนที่ระดับ 1,480-1,500 จุดได้ โดยสัปดาห์หน้าจะเริ่มการ Preview ผลประกอบการไตรมาส 3/59 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำเก็งกำไร PTT, PTTEP, TOP และ IRPC ต่อประเด็นข่าวบวกโอเปคปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) ว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นวันนี้โดยคาด SET จะกลับมาเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ และ ราคาน้ำมันดิบที่กลับมาเพิ่มขึ้นแรงรับข่าวโอเปกลดกำลังการผลิตอย่างเหนือความคาดหมายส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP) รวมถึงกลุ่มโรงกลั่น&ปิโตรฯ (TOP, IRPC ,SPRC ,PTTGC และ IVL) ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มนำตลาดในวันนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าซึ่งจะเป็นดัชนีบ่งชี้ถึงความต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบ เพราะหากราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าลดลงอาจสะท้อนแนวคิดของตลาดว่ามาตรการของกลุ่มโอเปก อาจจะไม่สามารถทำได้จริงในเชิงปฏิบัติทำให้ราคาหุ้นของกลุ่มพลังงานอาจจะเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก ส่วนอีกกลุ่มที่น่าสนใจคือกลุ่มถ่านหิน (BANPU, LANNA, UMS) เนื่องจากราคาถ่านหินยังปรับขึ้นต่อเนื่องล่าสุดราคาถ่านหินที่ท่าเรือ Newcastle ในออสเตรเลียปิดที่ 77.5$/ton ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
ส่วนกลุ่มอื่นๆเรายังเน้นให้เข้าซื้อในกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/59 จะออกมาดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอาทิ กลุ่ม อาหาร, โรงพยาบาล และหุ้นรายตัวที่แนวโน้มผลประกอบการดี อาทิ BEAUTY, TACC, TKN, JMT, TWPC, SMPC และ TPIPL(ที่ผู้ถือหุ้นจะได้สิทธิ์ Pre-emtive ซื้อหุ้น IPO ของหุ้น TPIPP)
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นที่แนวโน้มไตรมาส 3/59 เติบโตดี /และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BANPU (ซื้อ /เป้า 20 บาท), ราคาถ่านหินพุ่งทำ New high ในรอบ 2 ปี, (GFPT เป้า 18 บาท) ธุรกิจเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น