SET วันจันทร์ลุ้นเปิดรีบาวด์ตามตปท.ชู 12 หุ้นแนวโน้มกำไรดี-มีสตอรี่หนุน

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.16 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.61 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทะยานขึ้นเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับธนาคารดอยซ์แบงก์ หลังมีข่าวว่าทางธนาคารใกล้บรรลุข้อตกลงกับทางการสหรัฐในการลดการจ่ายค่าปรับเหลือเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังธนาคารดอยซ์ แบงค์อาจบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐในการขอลดค่าปรับลง อย่างไรก็ดีมองการปรับขึ้นของ SET ค่อนข้างจำกัด และมีความผันผวนสูงในสัปดาห์นี้-ต้นสัปดาห์หน้า แนะนำนักลงทุนซื้อหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการในไตรมาส 3/59 ปรับขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

หุ้นเด่นเลือก BEAUTY, TACC, TKN, JMT, TWPC , SMPC  , TPIPL , KCE, TPCH,COM7  ,TCMC และKBANK

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะรีบาวด์ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า เนื่องจากผ่อนคลายเรื่องของ”ดอยซ์แบงก์”หลังจากที่มีข่าวออกมาว่ากำลังเจรจากับสหรัฐฯให้ลดค่าปรับลงเหลือ 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเดิมที่ต้องจ่าย 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งก็ทำให้เห็นโอกาสในการเจรจากันได้

นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนก็ออกมาไม่ได้แย่ และทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็จะลดกำลังการผลิตน้ำมันด้วย ขณะเดียวกันก็ยังไม่ค่อยมีข่าวลบเข้ามาในตลาด พร้อมให้แนวรับ 1,477-1,460 จุด ส่วนแนวต้าน 1,491-1,498 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ต.ค.) มอง SET ปรับขึ้นในวันนี้ตามการปรับขึ้นของหุ้นสหรัฐฯ จาก ธ.ดอยซ์ แบงค์ อาจบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขอลดค่าปรับลง อย่างไรก็ดี เรามองการปรับขึ้นของ SET ค่อนข้างจำกัด และมีความผันผวนสูงในสัปดาห์นี้-ต้นสัปดาห์หน้า จาก 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งดัชนี ISM และตัวเลขจ้างงานจะประกาศในสัปดาห์นี้ 2) การโต้วาที ผู้แทนการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยเฉพาะระหว่างนางคลินตัน และนายทรัมป์ ในวันที่ 9 ต.ค. 3) นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสที่จะหยุดซื้อหุ้นไทยแล้ว (ดูรายงาน Pathumwan corner วันที่ 28 ก.ย.) ทำให้ยังคงมุมมอง SET 1-3 เดือนข้างหน้า ที่มีโอกาส “พักฐาน” ต่อ แนะนำแบ่งพอร์ตเพียงบางส่วนเพื่อ “Trading” เท่านั้น

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ต.ค.) มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ มีโอกาสฟื้นตัวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศเนื่องจากคลายกังวลปัญหาของดอยแบงก์หลังมีกระแสข่าวว่าดอยแบงก์อาจจะจ่ายค่าปรับต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ หุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าจะกลับมาฟื้นตัวและเป็นกลุ่มนำตลาดในวันนี้ โดยเฉพาะ SCB, KTB และ TISCO ซึ่งคาดว่าจะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เนื่องจากในปีนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายตั้งสำรองพิเศษเหมือนกับปีที่ผ่านมาซึ่งมีการตั้งสำรองหนี้สูญของ SSI ที่ประสบผลขาดทุนจากการลงทุนในอังกฤษ กลุ่มพลังงานคาดว่าจะยังพักตัวเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 วันที่ผ่านมามีโอกาสถูกขายทำกำไร หุ้นกลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็กจะกลับมาเป็นที่สนใจของตลาดมากขึ้น

โดยยังเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/59 ออกมาดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ BEAUTY, TACC, TKN, JMT, TWPC, SMPC และ TPIPL(ที่ผู้ถือหุ้นจะได้สิทธิ์ Pre-emtive ซื้อหุ้น IPO ของหุ้น TPIPP) ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในวันนี้คือ รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของไทยหากปรับตัวขึ้นแต่ไม่มากจะบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และในช่วงเย็น สหรัฐรายงานดัชนีภาคการผลิต ISM เดือนก.ย.หากปรับตัวขึ้นสูงกว่า 50 สะท้อนภาคการผลิตของสหรัฐกลับมาฟื้นตัว

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น KCE (ซื้อ/เป้า 120 บาท) คาดผลประกอบการไตรมาส 3/59 เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังเริ่มเดือนเครื่องโรงงานใหม่เฟสที่ 3 ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปีนี้: ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ต.ค.) วันจันทร์รีบาวด์ก่อนผันผวนต่อ ปัจจัยภายนอกเป็นบวกชัดเจนขึ้น (ศุกร์ที่แล้วแกว่งลง แย่กว่าคาด) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปฟื้นตัวแรง หลังมีรายงานว่า ธ.ดอยช์แบงก์น่าจะสามารถเจรจากับ ก.ยุติธรรมสหรัฐฯ ขอลดค่าปรับกรณีขายสินทรัพย์ MBS ผิดกฎหมายสหรัฐฯ เหลือ 5.4 พันล้านเหรียญฯ หรือเพียง 39% จากค่าปรับที่ประกาศครั้งแรกที่ 1.4 หมื่นล้านเหรียญฯ ส่งผลให้ความเสี่ยงเพิ่มทุนของดอยช์แบงก์ลดลง

ขณะที่เมื่อวันเสาร์ ทางการจีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต ก.ย. อยู่ที่ 50.4 เท่ากับในเดือน ส.ค. และชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตจีนเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ดีมองอัพไซด์ของดัชนีมีจำกัด อิงเป้าหมายใหม่ของ SET ไตรมาส 4/59 ที่ 1,510 จุด โดยปรับลดจากเป้าหมายเดิมที่ 1,580 จุด อิงการลดเป้า PE ลงจากเดิมที่ใช้ค่าเฉลี่ยช่วง 7 ปี มาใช้ค่าเฉลี่ย – 0.25 S.D. เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของทุนต่างชาติผันผวน ช่วงก่อน ธ.กลางสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้ หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร TPCH,COM7 สะสม TCMC (ถูกและมีสตอรี่)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ต.ค.) โดยวาง Filter แนวรับสำคัญไว้ที่ 1,480 จุด หากยืนไม่ได้ดัชนีมีโอกาสปรับฐานลง 10 – 20 จุด แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,500 จุด  แนะนำทยอยซื้อ KBANK ( FV@226 ) คาดกำไร ไตรมาส 3/59 ที่ 9.59 พัน ลบ. โดย NPL ถึงจุดสูงสุดแล้วและจะลดลงในช่วงไตรมาส 4/59 นี้