SET ขึ้นต่อลุ้นทดสอบระดับ 1,500 จุดเก็บ 10 หุ้นตัวเต็ง กำไร Q3/59 กระฉูด!

SET ขึ้นต่อลุ้นทดสอบระดับ 1,500 จุด เก็บ 10 หุ้นตัวเต็ง กำไร Q3/59 กระฉูด!


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.66 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะขยายตัว

นักวิเคราะห์มองดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อลุ้นทดสอบระดับ 1,500 จุด โดยมีแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและโรงกลั่น ซึ่งได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ขณะที่ราคาถ่านหินยังเพิ่มขึ้นทำ New high ในรอบกว่า 2 ปี  ส่วนกลุ่มหุ้นขนาดกลางถึงเล็กเรายังเน้นกลุ่มอาหารและโรงพยาบาลโดยเฉพาะกลุ่มอาหารคาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาส 3/59 เติบโตโดดเด่นทั้งจากไตรมาสก่อนและจากปีก่อน

หุ้นเด่นเลือก CPF-GFPT-IRPC-DCC-DRT-MTLS-SPA-HMPRO-TVO และAOT 

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ต.ค.) โดยมอง SET วันนี้มีโอกาสขึ้นต่อลุ้นทดสอบระดับ 1,500 จุด โดยมีแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและโรงกลั่น (PTT, PTTEP, TOP, IRPC) ซึ่งยังได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 หลังมีข่าว BP ปิดแท่นการผลิตน้ำมันดิบในทะเลเหนือ กลุ่มถ่านหิน(BANPU, LANNA, UMS) ราคาถ่านหินยังเพิ่มขึ้นทำ New high ในรอบกว่า 2 ปี  ส่วนกลุ่มสื่อสารอาจจะมีแรงซื้อกลับเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ราคายัง Laggard ที่สุดหากเทียบกับกลุ่มพลังงานและธนาคาร ส่วนกลุ่มหุ้นขนาดกลางถึงเล็กเรายังเน้นกลุ่มอาหารและโรงพยาบาลโดยเฉพาะกลุ่มอาหารคาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาส 3/59 เติบโตโดดเด่นทั้งจากไตรมาสก่อนและจากปีก่อนซึ่งเลือก CPF และ GFPT เป็น Top Pick ของกลุ่ม

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ต.ค.) โดยวาง Filter แนวรับสำคัญ 1,480 จุด แนวต้าน 1,500 จุด แนะนำซื้อ IRPC ( [email protected] ) ได้ประโยชน์จากโครงการ UHV ในช่วงครึ่งปีหลังและคาดค่าการกลั่นมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงท้ายปี

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ต.ค.)โดยคาด SET ยังมีความผันผวน แม้ไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ แต่ภายใต้ปัจจัยเดิมโดยเฉพาะจากต่างประเทศ ที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่ล่าสุดมีสัญญาณที่เป็นบวก (1) กรณีดอยซ์ แบงก์ จากค่าปรับที่มีโอกาสลดลงจากเดิม 14,000 ล้านUSD เป็น 5,400 ล้านUSD ซึ่งคาดช่วยลดความกังวลก่อนหน้านี้ต่อสถานการณ์ทางการเงินของดอยซ์ แบงก์ อย่างไรก็ตามดอยซ์ แบงก์ คาดบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในวันที่ 8/11/59 และ (2) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น คาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน แนะติดตามการประชุมครั้งต่อไปที่เวียนนา (30/11/59) ในการพิจารณาส่วนแบ่งการผลิตของสมาชิกโอเปก เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ ประเด็นความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ภายใต้คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ โดยเฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ (1 – 2/11/59 และ 13 – 14/12/59)

ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ แม้ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ คาดภาพรวมยังได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow แม้มูลค่าซื้อ/ขาย สุทธิ จะมีความผันผวนบ้าง แต่ยอดซื้อสุทธิสะสม ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 134,000 ล้านบาท และประเด็นผลประกอบการไตรมาส 3/59 ที่คาดเริ่มมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มแรก และต่อเนื่องในกลุ่ม Real Sector ถึงกลาง พ.ย.

นอกจากนี้แนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ

 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ต.ค.)ตลาดหุ้นวันนี้ทรงตัวในกรอบเดิม 1,480-1,500 จุด ยังไม่เห็นแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงจากเดิมแต่อย่างใด คาดว่าจะยังคงทรงตัวในกรอบ Sideways ตามกราฟ 60 นาที ซึ่งมีแนวรับ 1,485-1,480 จุด และแนวต้านที่ 1,495-1,500 จุดต่อไป สามารถเก็งกำไรตามนี้ได้ โดยควรวางจุดถอยทันทีที่ผิดทาง

กลยุทธ์การลงทุน: รักษาพอร์ตระยะสั้น 30%

1. หุ้นท่องเที่ยวฟื้นตัว: AOT 

2. Selective trading: MTLS, SPA, HMPRO, TVO 

Back to top button