SET บ่ายแกว่งแคบ รอตัวเลขศก.สหรัฐฯพรุ่งนี้ แนะเพิ่มพอร์ต “Trading” สัญญาณเทคนิคฟื้นตัว

SET บ่ายแกว่งแคบ รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,505 แนวต้าน 1,518-1,525 จุด โบรกฯ แนะเพิ่มพอร์ต "Trading" หลังสัญญาณเทคนิคเริ่มฟื้นตัว


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (6 ต.ค.) แกว่งแคบ รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเป็นผลจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์ บ่ายนี้คาดตลาดคงยังแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,505 แนวต้าน 1,518-1,525 จุด

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯวันศุกร์นี้ เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากวานนี้ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด แต่ช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) 3 สาขาออกมาพูดในเชิงเชียร์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนพ.ย.นี้ แต่มีเพียง 1 ใน 3 คนที่มีสิทธิออกเสียง

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น อันเป็นผลมาจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับตัวลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์แล้ว แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,518-1,525 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (6 ต.ค.) ว่า SET ภาคเช้ายังคงแข็งแกร่งว่าหุ้นภูมิภาค หนุนโดยหุ้นขนาดเล็ก-กลาง รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันที่เพิ่มแรงเมื่อคืนนี้ แนะนำเพิ่มพอร์ต “Trading” หลังสัญญาณทางเทคนิคปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ SET ทะลุ 1,506 จุดขึ้นมา แต่ยังคงน้ำหนักพอร์ตหลักไว้อยู่ เนื่องจากยังมีความที่ SET จะ “ผันผวน” และ “พักฐาน” ใน 1-3 เดือนข้าง

ในขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” IRPC การปรับสูงขึ้นของค่าการกลั่น (Refining Margin) จากระดับ US$3/bbl ในเดือน ส.ค.มาที่ระดับ US$7/bbl ในปัจจุบัน และคาดว่าค่าการกลั่นจะทรงตัวในระดับสูงไปจนถึงปลายปีนี้ หรือช่วงฤดูหนาวที่มีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น โดยแนะนำ “ซื้อ” IRPC (เป้าหมายพื้นฐาน 6.80 บาท – แนวต้านระยะสั้น 5.15/ 5.30) ที่ราคาหุ้นยังคง laggard หุ้นกลุ่มโรงกลั่น และได้รับผลดีจากค่าการกลั่น และส่วนต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ปิโตรฯกับวัตถุดิบที่สูง รวมไปถึงการ Upgrade โรงกลั่นที่เข้ามาตั้งแต่เดือน ก.ค.หนุนอัตรากำไรในไตรมาส 3/59 ปัจจุบันให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.4-6.8% ทางเทคนิค ผ่าน 5.0 บาทมาแล้ว ลุ้นทดสอบ 5.15 บาท และ 5.30 บาท ต่อไป

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

BCPG มูลค่าการซื้อขาย 1,266.57 ล้านบาท ปิดที่  13.10 บาท เพิ่มขึ้น  0.10 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,025.22 ล้านบาท ปิดที่  63.50 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย   919.66 ล้านบาท ปิดที่  17.00 บาท เพิ่มขึ้น  0.10 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย   863.47 ล้านบาท ปิดที่ 195.50 บาท เพิ่มขึ้น  2.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย   757.57 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น  0.50 บาท

Back to top button