SET บ่ายยืนลบ กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย โบรกฯ แนะ ”จำกัด” พอร์ตการลงทุน

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (12 ต.ค.) ปรับลงแรงแนวเดียวกับต่างประเทศ ตลาดภูมิภาคปรับตัวลงตามดาวโจนส์ที่ร่วงแรงเมื่อคืน เหตุกังวลเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนบ้านเรายังกังวลปัจจัยในประเทศ ทำให้สถาบันขายหุ้น 2 วันที่ผ่านมาขายร่วมหมื่นล้านบาท และเชื่อว่าแรงขายยังมีอยู่ บ่ายนี้ยังไม่เห็นทีท่าที่รีบาวด์ คาดแกว่งตัวในแดนลบต่อ

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรง เป็นไปในทิศทางเดียวกับกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลงตามดาวโจนส์ที่ร่วงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา อันเป็นผลจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)  จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ส่วนบ้านเราก็ยังมีความกังวลปัจจัยในประเทศมากขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนรายสถาบันขายหุ้นออกมา 2 วันที่ผ่านมาเป็นเงินร่วมหมื่นล้านบาท และเชื่อว่าแรงขายจะยังมีอยู่อีก แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ยังไม่เห็นทีท่าที่ดัชนีฯจะรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ ดังนั้นตลาดฯคงจะแกว่งตัวในแดนลบต่อไป

ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า ตลาดหุ้นช่วงเช้านอกจากจะเป็นการขายจากความกัลวลปัจจัยในประเทศ ซ้ำด้วยปัจจัยลบจากต่างประเทศแล้ว อาจมีแรงขายส่วนหนึ่งมาจากผลการทำชอร์ตเซล และบางส่วนถูกฟอร์ซเซล ทำให้มีแรงขายออกมามากอย่างผิดปกติ ผลักดันมูลค่าการซื้อขายช่วงเช้าสูงถึงกว่า 4 หมื่นล้านบาท

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ต.ค.) ว่าSET ภาคเช้ามีแรงเทขายหนักต่อเนื่องจากความกังวลเรื่องของ FED แนะนำซื้อเก็งกำไรเล่นสั้นบางส่วนเท่านั้น ระยะยาวควรรอดูให้ยืนเหนือ 1,410 จุดได้อีกครั้งก่อน หากไม่ยืนเรายังไม่ซื้อสะสม แนวรับสำคัญต่อไปจะอยู่ที่ 1,390 จุด และ 1,350 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ต.ค.) SET ปรับลดลงตั้งแต่เปิดตลาด และหลุดแนวรับ Uptrend Line ที่ 1,436 จุด ถือว่าเป็นปัจจัย “ลบ” ทางเทคนิคต่อเนื่อง โดยจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,380 จุด ในกรอบ Downtrend Channel (ดูกราฟด้านล่าง)

ในขณะเดียวกันแนะนำ ”จำกัด” พอร์ต อาจลุ้น Rebound ได้ที่ 1,380 จุด แม้ SET ปรับลดลงแล้ว 100 จุด จากสิ้นสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ดีจาก 1) SET ปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับ 1,436 จุด และมีโอกาสปรับลดลงไปที่ 1,380 จุด ตามกรอบ Downtrend Channel 2) Valuation ในเชิง PE ที่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 13.2x (PE17 ที่ 13.2x = SET ที่ 1,350 +/- จุด) 3) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ก่อนการขึ้นดอกเบี้ย Fed ปลายปีนี้ จะส่งผลให้กระแสเงินทุนมีความ “ผันผวน” มากขึ้น 4) การปรับประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ชะลอตัวลง (ดูรายงาน The Revision วันที่ 11 ต.ค.เพิ่มเติม) เป็นสัญญาณ “พักฐาน” ต่อเนื่อง…แม้อาจลุ้น Rebound ที่ 1,380 จุด แต่การเข้าซื้อช่วงนี้ยังควรเป็นแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป”

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,762.99 ล้านบาท ปิดที่  57.50 บาท ลดลง   2.25 บาท  

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,385.64 ล้านบาท ปิดที่ 362.00 บาท ลดลง  18.00 บาท

KBNAK มูลค่าการซื้อขาย 1,892.86 ล้านบาท ปิดที่ 177.50 บาท ลดลง   7.50 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,669.51 ล้านบาท ปิดที่  15.70 บาท ลดลง   0.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,586.75 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท ลดลง   5.00 บาท