เช็ค 12 หุ้น ลุ้น Outperform ตลาด Q4SET ไร้ปัจจัยใหม่หนุน พยุงตัวในกรอบ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบจำกัดเนื่องจากขาดปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ ขณะที่ตลาดเริ่มไม่มั่นใจในทิศทาง Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ประเด็นการตั้งสำรองของธนาคารยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้น การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มครึ่งปีหลังดี และมีโอกาส Outperform ในช่วงไตรมาส 4/59 ต่อเนื่อง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.18 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.17 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบจำกัดเนื่องจากขาดปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ ขณะที่ตลาดเริ่มไม่มั่นใจในทิศทาง Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ประเด็นการตั้งสำรองของธนาคารยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้น การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มครึ่งปีหลังดี และมีโอกาส Outperform ในช่วงไตรมาส 4/59 ต่อเนื่อง

หุ้นเด่นเลือก BJC-CPALL-CPF-EA-IRPC-INTUCH-ADVANC-DIF-KKP-CK-SEAFCO และ IVL

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ต.ค.) ว่า การบริโภคที่อ่อนตัวลงในไตรมาส 4/59 จึงปรับประมาณการการเติบโต GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.2% แต่ยังคาดการณ์ GDP จะเร่งตัวขึ้นเป็น 3.7% ในปี 2560 จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังอ่อนแอ ขณะที่เรามอง Downside Risk ต่อประมาณการกำไรปี 2559-60 ที่ 2.0 – 2.5% จากคาดการณ์ปัจจุบัน

คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,460 – 1,480 จุดวันนี้ ติดตามผลการดำเงินงานธนาคารขนาดใหญ่อย่าง SCB BBL หลังงบ KBANK แสดงให้เห็นถึง NPL ที่ยังเร่งตัวขึ้นต่อ

แนะนำกลยุทธ์ “Selective” ในกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ในช่วงไตรมาส 4/59 ต่อเนื่อง ได้แก่

1) กำไรเติบโตดี : BJC CPALL (แนะนำ “ซื้อ” เข้าพอร์ต Siam Senses) วันนี้ มองธุรกิจแข็งแกร่ง ด้วย PEG 1.1 เท่า) CPF EA IRPC

2) เงินปันผลสูง : INTUCH ADVANC DIF KKP (กำไรไตรมาส 3/59 ดีกว่าคาด)

3) ผลดีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน : CK SEAFCO

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ต.ค.) คาด SETเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อทิศทาง Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติหลังจากที่ขายสุทธิออกมาในทุกตลาดทั้ง ตลาดหุ้น TFEX และ ตลาดพันธบัตร โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่ต่างชาติขายสุทธิ 5 วันติดต่อกันและมีทิศทางที่มากขึ้น และเราคาดว่านักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะตัวเลข GDP ไตรมาส 3/16 ของจีนที่จะประกาศออกมาในวันพรุ่งนี้ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัว 6.6% ลดลงจากไตรมาส 2/16 ที่ขยายตัว 6.7% ส่วนวันที่ 19 ต.ค.สหรัฐจะมีการ Debate ชิงประธานาธิบดีครั้งที่ 3 ของสหรัฐซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้าย(ช่วงเช้าวันที่ 20 ตามเวลาประเทศไทย) และในช่วงเย็นของวันที่ 20 จะมีการประชุม ECB ตลาดส่วนใหญ่คาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0% ตามเดิมและคาดหวังว่า ECB อาจจะเลื่อนระยะเวลาดำเนินการ QE ออกไปอีก 1 ปีจากที่จะหมดอายุโครงการในเดือน มี.ค.ปีหน้า

ยังเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการยังแข็งแกร่งโดยเฉพาะกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/59 จะออกมาดี อาทิ กลุ่ม อาหาร (CPF, GFPT) กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (KCE) และหุ้นรายตัวที่ผลประกอบการดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ BANPU, BEAUTY, TACC, TKN, JMT และ TWPC  

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy เน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/59 ออกมาดี

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : IVL (ซื้อ/เป้า 38.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 เพิ่มขึ้นโดดเด่นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนรับผลบวกจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการ 

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ต.ค.) ว่า ภาวะการซื้อขายวานนี้แรงขายหลักอยู่ในหุ้นแบงก์ใหญ่ หลัง KBANK เผยแนวโน้มการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นในปีหน้า สะท้อนความกังวลต่อปัญหา NPL ในอนาคต สัปดาห์นี้วันพุธติดตามรายงาน GDP จีนไตรมาส 3/59 คาดที่ระดับ 6.7 %, วันพฤหัสติดตามการดีเบต ผู้สมัคร ปธน.สหรัฐรอบสุดท้ายและการประชุม ECB

กลยุทธ์การลงทุน ประเด็นการตั้งสำรองของธนาคารยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้น โดยวาง Filter แนวรับที่ 1,470 จุด หากยืนไม่ได้แนะนำลดพอร์ตลง เพื่อรอซื้อกลับเมื่อดัชนีอ่อนตัว โดยมีแนวต้านระยะสั้น 1,490 – 1,500 จุด

Back to top button