SET บ่ายยืนลบ ชู 9 หุ้นเก็งงบ Q3 โตดี มีแนวโน้มปรับเพิ่มเป้ากำไร

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (26 ต.ค.)เคลื่อนไหวในแดนลบตามตลาดภูมิภาค รับแรงกดดันตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐต่ำกว่าคาด และราคาน้ำมันดิบลดลง รวมถึงกระแส Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง บ่ายคาดดัชนีฯแกว่งตัวในกรอบอิงแดนลบ ให้แนวต้าน 1,510 แนวรับ 1,490 จุด

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันมาจากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือน ต.ค.59 ที่ออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาด และราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง รวมถึงกระแส Fund Flow ต่างชาติไหลออก จากที่ขายสุทธิมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ราว 1.1 หมื่นล้านบาท ส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดฯ  

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ดัชนีฯน่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ อิงแดนลบ พร้อมให้แนวต้าน 1,510 จุด แนวรับ 1,490 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (26 ต.ค.) ว่าSET ภาคเช้า หุ้นขนาดใหญ่กดดัน SET กำหนด Trailing Stop ที่ 1,478 จุด การปรับลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง หลังอิรัก อาจไม่ร่วมกับกลุ่ม OPEC ในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน และหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ถูกกดดันจากปัญหา NPL ที่ยังเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับ Upside SET ไปที่เป้าหมาย 1,520 จุด เริ่มจำกัด

ทำให้คาดว่า SET จะเริ่มกลับมา “ผันผวน” เพิ่มขึ้น โดยแนะนำให้กำหนด Trailing Stop หรือ “จุดล็อกกำไร” ที่ 1,478 จุด และแนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไรออกมาดี อย่าง BJC CPALL EA BEAUTY รวมไปถึงหุ้นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้นอย่าง KAMART CPF KKP KTC และ TOP

ในขณะเดียวกัน“ซื้อ” EA ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 32 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) กำไร ไตรมาส 3-4/59มีแนวโน้มเติบโตสูง จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากกำลังการผลิตไฟฟ้า Solar Farm ที่เพิ่มขึ้น 90MW และคาดการณ์กำไรทั้งปีที่ 3.9 พันล้านบาท +50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) กำไรปี 2559 จะเติบโตต่อเนื่องอีก 30% ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 5.1 พันล้านบาท จากกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมหาดกังหัน 126MW จะเริ่มผลิตไฟฟ้าตั้งแต่ปลายปีนี้ และได้รับผลดีจากการ Refinance หุ้นกู้ 8 พันล้านบาทตั้งแต่ปีนี้ ต้นทุนการเงินลดลงเหลือ 2.3% จากเดิม 4.8% 3) ทางเทคนิคราคาหุ้นทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 1 ปี เป้าหมายตามกรอบ Uptrend ที่ 29.50 บาท หรือถัดไปที่จุดสูงสุดในปี 2559 ที่ 32.50 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

SQ  มูลค่าการซื้อขาย 2,377.37 ล้านบาท ปิดที่   4.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.94 บาท         

BANPU  มูลค่าการซื้อขาย 1,512.97 ล้านบาท ปิดที่  18.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท      

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย   891.85 ล้านบาท ปิดที่ 173.50 บาท  ลดลง 1.50 บาท        

ESSO มูลค่าการซื้อขาย   801.80 ล้านบาท ปิดที่   9.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

BEM มูลค่าการซื้อขาย   736.42 ล้านบาท ปิดที่   7.65 บาท  ลดลง 0.10 บาท