SET บ่ายแกว่งแคบ – นักลงทุนจับตาประชุมเฟดโบรกฯแนะ “ซื้อ” BJC เป้า 55 บ ปัจจัยหนุนเพียบ

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (31 ต.ค.) เคลื่อนไหวกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ โดยนักลงทุนต่างรอความชัดเจนการประชุมเฟดในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อไป พร้อมให้แนวต้าน 1,500 จุด แนวรับ 1,490 จุด

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบทั้งแดนบวกและแดนลบสลับกัน โดยในช่วงนี้อยู่ในช่วงของการรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ย. นี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ประกอบกับตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุน โดยเฉพาะปัจจัยในประเทศ

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและแดนลบ ซึ่งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคนักลงทุนต่างรอติดตามผลการประชุมเฟดเช่นเดียวกัน

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดียวกับช่วงเช้า รอดูผลการประชุมเฟด และยังไร้ปัจจัยใหม่อื่น ๆ เข้ามาพร้อมให้แนวต้าน 1,500 จุด แนวรับ 1,490 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (31 ต.ค.) ว่า SET ภาคเช้ายังเคลื่อนไหวแคบ รอ 1) ความชัดเจนการใช้นโยบายการเงิน Fed หลังประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ 2) การเลือกตั้ง US วันที่ 7 พ.ย.นี้  อย่างไรก็ดีจากสถิติการเลือกตั้งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 1988-2012 จะเห็นว่าตลาดหุ้น Dow Jones มักให้ผลตอบแทนเป็น “บวก” 6 ปีใน 7 ปี (ดูรูปด้านซ้าย) และคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อ SET ต่อไป

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” BJC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 55 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) กำไร ไตรมาส 3/59  ที่ 717 ล้านบาท +85% y-y และ 1% y-y ออกมาดีกว่าคาดการณ์ไว้ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นของ BIGC 2) กำไรไตรมาส 4/59 จะดีขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจค้าปลีก และเริ่มรับรู้ผลของการลดหนี้ตั้งแต่ปลาย ไตรมาส 3/59 และการ Refinance ด้วยหุ้นกู้ดอกเบี้ยต่ำ 3) Valuation ที่ PE17 28x อาจสูงกว่า CPALL ที่ 26.5x แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยัง Under-own ขณะที่ด้วย Market Cap ใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของตลาด และ Turnover สูง ทำให้มีโอกาสถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี MSCI และ SET50 ในอนาคต และ 4) Chart ทางเทคนิคทำรูปแบบ Cap with Handle ยังคาดหวังการปรับสูงขึ้นระยะกลาง-ยาวไปที่ 70-75 บาท เหมือนเดิม

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

BPP    มูลค่าการซื้อขาย 2,024.31 ล้านบาท ปิดที่  27.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง         

JAS    มูลค่าการซื้อขาย   943.81 ล้านบาท ปิดที่   8.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท         

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย   812.03 ล้านบาท ปิดที่ 173.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท        

TPRIME มูลค่าการซื้อขาย   672.61 ล้านบาท ปิดที่  12.60 บาท เพิ่มขึ้น 2.60 บาท

ESSO   มูลค่าการซื้อขาย   667.96 ล้านบาท ปิดที่   9.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท