SET บ่ายยืนลบ จับตาผลประชุมเฟดโบรกฯ แนะ “ซื้อ TMB ชูเป้า 2.56 บ.
SET บ่ายยืนลบ นักลงทุนชะลอการลงทุนรอดูผลประชุมเฟดหลังสิ้นสุดการประชุมในคืนนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,488 และ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510 จุด โบรกฯ แนะ "ซื้อ" TMB ชูเป้า 2.56 บ. มองกำไรจะกลับมาเติบโต 10% ในปีนี้
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (2 พ.ย.) ปรับตัวลดลงตามแรงขายทำกำไร ขณะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนรอดูผลประชุมเฟดที่จะออกมาหลังสิ้นสุดการประชุมในคืนนี้ รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าบ่ายนี้ตลาดฯน่าจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในรูปแบบเดียวกับช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,488 และ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510 จุด
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามแรงขายทำกำไร หลังระดับดัชนีในปัจจุบันเป็นจุดที่มีโอกาสขายทำกำไรได้ และนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุน เพื่อรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะทราบผลในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
“ในระดับดัชนีเท่านี้ถือว่ามีระดับ P/E ที่สูงพอสมควรเมื่อเทียบกับพื้นฐาน จึงค่อนข้างอ่อนไหวและพร้อมที่จะมีแรงขายทำกำไรได้ตลอดเวลาสำหรับคนที่บวกอยู่ ในขณะเดียวกันมีความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. เนื่องจากปัจจุบันเริ่มกลับมามีความนิยมใกล้เคียงกันทำให้มีความกังวลว่าโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี” นายกวี กล่าว
อย่างไรก็ตามการที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/59 ในช่วงนี้นั้นน่าจะยังเป็นปัจจัยช่วยพยุงดัชนีหุ้นไทยไม่ปรับลดลงไปมากนัก ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่าตลาดฯน่าจะยังคงเคลื่อนไหวในรูปแบบเดียวกับช่วงเช้า โดยให้ระมัดระวังหากดัชนีหลุดแนวรับที่ 1,488 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510 จุด
บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (2 พ.ย.) ว่า SET ภาคเช้า Sentiment ตลาดหุ้นโลกกดดัน การปรับลดลงของตลาดหุ้นโลก เนื่องจากนักลงทุนอยู่ในสถานะ Risk-off เพิ่มขึ้น เพราะ 1) โพล์เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีคะแนนสูสีระหว่างคลินตัน และทรัมป์ อย่างไรก็ดีสถิติในอดีต แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้น Dow Jones มีโอกาศสูงถึง 86% ที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีไป 3 เดือน 2) การประชุม FOMC คืนนี้ แม้คาดว่า Fed จะคงดอกเบี้ย แต่การขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้ทำให้กระแสเงินทุนมีความ “ผันผวน” เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีเรายังมอง Downside Risk ของ SET จำกัดที่ 1,480 จุด เหมือนเดิม เนื่องจาก 1) โอกาสเกิด Post-election rally ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ 2) แรงซื้อกองทุน LTF ปลายปี และ 3) รัฐบาลมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยังดำเนินต่อไป
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” TMB ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 2.56 บาท เนื่องจาก 1) Downside Risk จำกัดที่ PBV 1.1x หรือใกล้เคียงจุดต่ำสุดตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา 2) การตั้งสำรองที่สูงในไตรมาส 3/59 จะเป็นไตรมาสสุดท้าย หลัง Coverage Ratio สูง 142% และคาดว่า Credit Cost จะลดลงจาก 1.7% ในไตรมาส 3/59 เหลือ 1.65% ในไตรมาส 4/59 และ 1.4% ในปี 2560 3) กำไรจะกลับมาเติบโต 10% ในปี 2560 หลังจากหดตัวลง 2 ปีติดต่อกัน และ 4) ทางเทคนิคทดสอบแนวต้านที่ 2.16 บาท ผ่านไปได้จะมีเป้าหมายที่ 2.32-2.36 บาท
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,888.01 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
BPP มูลค่าการซื้อขาย 1,425.65 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,035.30 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 989.30 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ESSO มูลค่าการซื้อขาย 823.61 ล้านบาท ปิดที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท